กลุ่ม ปตท.ระงับพิจารณาการลงทุนใหม่ในอินโดฯหลังมีคดีฟ้องร้อง PTTEP

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 18, 2017 17:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม ปตท.ตัดสินใจระงับการพิจารณาลงทุนใหม่ในอินโดนีเซียทั้งหมด หลังมีคดีที่รัฐบาลอินโดนีเซียฟ้องร้อง บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จนกว่าจะมีนโยบายชัดเจนจากทางรัฐบาลอินโดนีเซียต่อกรณีดังกล่าว จากปัจจุบันที่กลุ่ม ปตท.มีการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม, เหมืองถ่านหิน และ มีการซื้อขายน้ำมันและปิโตรเคมีระหว่างกัน

ส่วนธุรกิจปาล์มน้ำมัน ปัจจุบันได้ทยอยขายเกือบหมดแล้ว

"ตอนนี้เราชะลอการตัดสินใจลงทุนใหม่ในอินโดนีเซีย เพราะต้องการให้เกิดความชัดเจนว่าตกลงจะเป็นอย่างไร นโยบายรัฐบาลอินโดนีเซียจะเป็นอย่างไร ถ้านโยบายเขาไม่ต้อนรับเรา เราจะไปลงทุนได้อย่างไร เราต้องรอดูนโยบายเขาก่อน ส่วนธุรกิจถ่านหินวันนี้ก็ยังเดินตามปกติ วันนี้เอาเป็นว่าอะไรที่ต้องลงทุนเพิ่มก็ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าทำต่อได้หรือไม่ ต้องรอฟังนโยบายเขาก่อน"นายเทวินทร์ กล่าว

นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กลุ่ม ปตท.ยังไม่ได้รับรายละเอียดคำฟ้องจากรัฐบาลอินโดนีเซียต่อกรณีเหตุน้ำมันรั่วไหลของแหล่งมอนทาราในทะเลติมอร์ของออสเตรเลียเมื่อปี 52 อย่างไรก็ตาม ในการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่กรุงพนมเปญเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย และได้หารือข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าว โดยได้รับข้อมูลว่าเป็นการฟ้องที่ศาลอินโดนีเซีย

ส่วนจะมีการอายัดทรัพย์สินของกลุ่ม ปตท.ในอินโดนีเซีย ตามที่เป็นข่าวหรือไม่นั้น ทางรัฐมนตรีอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย เห็นว่ากรณีนี้ไม่น่าจะจริง ขณะที่การฟ้องร้องก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องธุรกิจก็ให้เป็นเรื่องของธุรกิจที่มีการดำเนินการต่อไป ขณะที่ความร่วมมือกับกลุ่ม ปตท.นั้น ทางรัฐมนตรีอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย เห็นว่าคงไม่ได้หยุดลง เพราะความร่วมมือระหว่างกลุ่มปตท. อินโดนีเซีย และอาเซียน น่าจะทำให้เกิดความแข็งแรงขึ้นแก่ทุกฝ่าย

"ดังนั้น ก็ได้ทราบว่าทางกระทรวงอุตสาหกรรม (อินโดนีเซีย) ก็มีแนวทางว่าก็แยกกันไป เรื่องคดีการฟ้องร้องก็ต้องหาวิธีการไป จะมีการไต่สวนเข้าใจว่ากระบวนการเมื่อมีการฟ้องร้องก็ต้องเชิญมาให้ข้อมูล และอาจจะมีกระบวนการไกล่เกลี่ยหรือไม่ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ส่วนเรื่องการทำธุรกิจร่วมกันการลงทุนร่วมกันก็ปล่อยให้เป็นไปตามปกติ...เราหวังว่าขั้นต่อไปคงจะมีความชัดเจนเรื่อยๆ เช่น คำฟ้องศาลน่าจะมาถึง แนวทางของรัฐบาลอินโดนีเซีย เพราะเท่าที่รับฟังจะเห็นว่ามีแนวทางของรัฐมนตรีทางด้านกระทรวงที่เกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลก็บอกแบบหนึ่ง กระทรวงอุตสาหกรรมก็บอกแบบหนึ่ง ก็ต้องมาดูว่าตกลงรัฐบาลอินโดนีเซียมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร"นายเทวินทร์ กล่าว

นายเทวินทร์ กล่าวว่า อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุนของกลุ่ม ปตท.ที่จะทำธุรกิจร่วมกันและเพื่อให้ได้รับประโยชน์ร่วมกัน แต่เมื่อยังไม่มีความชัดเจนจากกรณีนี้ ปตท.ก็มองการพิจารณาลงทุนในประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียนที่มีศักยภาพ ทั้งเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว และ มาเลเซีย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม PTTEP ได้แสดงความชัดเจนแล้วว่าหากมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ากรณีเหตุน้ำมันรั่วไหลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเสียหายต่ออินโดนีเซีย ทาง PTTEP ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ พร้อม ๆกับการทำงานที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) ในอินโดนีเซียควบคู่กันไปด้วย

นายเทวินทร์ กล่าวถึงความคืบหน้าของมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มอบหมายให้ ปตท.ศึกษาการขยายคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ว่า ขณะนี้ปตท.ได้ดำเนินการขยายขีดความสามารถรับ LNG สำหรับคลังแห่งที่ 1 ระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรับ LNG เป็น 10 ล้านตัน/ปีแล้ว ขณะที่ได้หารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อหาสรุปรายละเอียดการขยายคลังเพิ่มเป็น 15 ล้านตัน/ปี ซึ่งจะเป็นการดำเนินการในระยะที่ 3 จากเดิมที่กพช.เคยมีมติก่อนหน้านี้ให้ขยายคลังแห่งที่ 1 เพิ่มเป็น 11.5 ล้านตัน/ปีเท่านั้น โดยคาดว่ากระทรวงพลังงานน่าจะสรุปได้ภายใน 1-2 เดือน ก่อนนำเสนอกพช.เพื่อพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง และเพื่อให้ทันกับการเตรียมการต่อแผนการลงทุนใหม่ของปตท.

ส่วนคืบหน้าการก่อสร้างคลัง LNG แห่งที่ 2 เพื่อรองรับ LNG จำนวน 7.5 ล้านตัน/ปี อยู่ระหว่างออกแบบ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เข้าร่วมในข้อตกลงคุณธรรมเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจะมีความโปร่งใส นอกจากนี้ ปตท.ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการสร้างคลัง LNG ในรูปแบบเรือลอยน้ำ (FSRU) ในเมียนมา และพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) หลังจากที่ กพช.มีมติให้ดำเนินการศึกษาด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ