ตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,566.85 จุด ลดลง 0.75 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 43,672.90 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกช่วงภาคเช้า และพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ช่วงภาคบ่าย โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,573.13 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,562.73 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 433 หลักทรัพย์ ลดลง 670 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 412 หลักทรัพย์
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายที่ผ่านมาพลิกกลับมาเป็นลบ จากช่วงเช้าที่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเป็นผลมาจากแรงขายหุ้น PTTEP และ PTT หลังจาก PTTEP ต้องหยุดผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ส.ป.ก. ในโครงการ S1 ชั่วคราว ซึ่งมีผลกระทบต่อปริมาณการขายน้ำมันดิบที่ลดลง 15,000 บาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 5% ของกำลังการผลิตทั้งหมด
อนึ่ง การหยุดผลิตแหล่งดังกล่าวของ PTTEP เป็นไปตามที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติแจ้งมา หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่องการให้ความยินยอมในการนำทรัพยากรธรรมชาติในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามกฎหมายอื่น
นายชัยยศ กล่าวว่า แรงขายของหุ้น PTTEP และ PTT ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในวันนี้ส่วนใหญ่ดัชนีปรับตัวลดลง แต่ยังไม่มีปัจจัยภายนอกอื่นๆที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้มองว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยยังไร้ปัจจัยใหม่ๆที่ส่งผลต่อทิศทางของตลาดหุ้น ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในวันพรุ่งนี้ยังไม่มีปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่จะไปอยู่ในวันที่ 8 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ คือ การเลือกตั้งของอังกฤษ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
พร้อมให้แนวต้าน 1,575 จุด แนวรับ 1,560 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,391.98 ล้านบาท ปิดที่ 383.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,047.76 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,754.78 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท ลดลง 3.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,601.38 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,077.13 ล้านบาท ปิดที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท