EPG มั่นใจศก.โลก-ศก.ไทยโตหนุนรายได้งวดปี 60/61 โตเข้าเป้า 12% ทะลุหมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 8, 2017 13:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) กล่าวว่า บริษัทคงเป้ารายได้ในงวดปี 60/61 (เม.ย.60-มี.ค.61) เติบโตราว 12% หรือทะลุ 10,000 ล้านบาท จากงวดปี 59/60 (เม.ย.59-มี.ค.60) ที่มีรายได้ 9,280 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ

ทั้งนี้ ธนาคารโลก (world Bank) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในช่วง 3 ปีนี้จะเติบโตราว 2.7-2.9% ขณะที่ประเทศไทย คาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตราว 3.5-4% ส่งผลทำให้อุตสาหกรรมโดยรวมน่าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมก่อสร้าง ,อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมแพ็คเกจจิ้ง ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการเติบโตของธุรกิจหลักของบริษัทฯ ทั้ง 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ,ธุรกิจฉนวนกันความร้อน เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP เป็นต้น

"ปีนี้เราคาดจะเติบโตได้ราว 12% จากเศรฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น และน่าจะเห็นผลอย่างชัดเจนได้ในช่วงของครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป ซึ่งเราก็มีความพร้อมในเรื่องของกำลังการผลิต เพื่อรองรับออเดอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ"นายเฉลี่ยว กล่าว

สำหรับธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ยังมีการขยายตลาดในยุโรป เอเชีย และโอเชียเนีย อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการสินค้า โดยบริษัท TJM Producr PTY Ltd (TJM) ซึ่งทำธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ 4WD ปัจจุบันได้จัดตั้ง TJM Corporate Store ใน Western Australia แล้ว ทำให้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตราว 15% เป็น 4,800 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ราว 4,100 ล้านบาท

ด้านธุรกิจฉนวนกันความร้อน-เย็นภายใต้แบรนด์ Aeroflex ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “AERO-ROOF" ซึ่งเป็นฉนวนยางกันความร้อนใต้หลังคา เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าโครงการ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ,ห้างสรรพสินค้า ,โรงพยาบาล ,คลังสินค้า และกลุ่มลูกค้าทั่วไป ทำให้ปีนี้ตั้งเป้าจะมียอดขายเติบโตไม่น้อยกว่า 50% จากปีก่อนมียอดขายรวมที่ 2,642 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีถัดๆไป

ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP คาดว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่น่าจะฟื้นตัวขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ เห็นได้จากการส่งออกและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยบริษัทมีความพร้อมอย่างมากด้านศักยภาพในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก ปัจจุบัน EPP มีกำลังการผลิตสูงถึง 32,000 ตัน/ปี และจะเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 30% ในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายเฉลียว กล่าวว่า บริษัทยังคงงบลงทุนรวมขยายกำลังการผลิตในช่วง 3 งวดปี (ปี 60/61 จนถึง 62/63) ประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น การลงทุนธุรกิจฉนวนกันความร้อน-เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX จำนวน 300 ล้านบาท ธุรกิจ AEROKLAS หรือ ธุรกิจยานยนต์ จำนวน 600 ล้านบาท และ ธุรกิจ EPP หรือ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ จำนวน 300 ล้านบาท

ส่วนทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลงมาด้วย โดยเฉพาะเม็ดพลาสติก ก็น่าจะทำให้อัตรากำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทจะยังรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิไว้ไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 15.38%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ