ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,573.53 จุด ลดลง 3.47 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 39,961.78 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,580.52 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,573.53 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 469 หลักทรัพย์ ลดลง 619 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 442 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ส่วนใหญ่จะติดลบเช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง แม้แต่ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบเช่นกัน โดยมองว่ามาจาก 2 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องแรกราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่สต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลงน้อยกว่าที่คาด ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานกดดันดัชนีฯ ส่วนกลุ่มแบงก์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลการปล่อยกู้ให้ EARTH ที่แบงก์อาจจะต้องตั้งสำรองสูงขึ้น ซึ่งอาจจะกดดันบางธนาคารได้
อีกเรื่องคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกมายอมรับแล้วว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯได้ปรับลดต่ำจริง ตรงนี้สำคัญ เพราะหลายประเทศทั่วโลกเวลานี้กำลังเผชิญกับเงินเฟ้อที่ต่ำลง แม้แต่ประเทศไทยล่าสุดเดือนพ.ค.เงินเฟ้อก็ติดลบ ซึ่งปกตินักลงทุนจะโยกเงินจากตลาดหุ้นเข้าตลาดตราสารหนี้ ตรงนี้ทำให้เห็นตลาดหุ้นส่วนใหญ่ติดลบ ซึ่งก็คาดว่าจะรับ effect ตรงนี้ไปด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ ในลักษณะทรงตัวหลังจากที่ตอบรับราคาน้ำมันปรับตัวลงมาในระดับหนึ่งแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,996.56 ล้านบาท ปิดที่ 380.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,023.81 ล้านบาท ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 999.37 ล้านบาท ปิดที่ 87.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 909.79 ล้านบาท ปิดที่ 18.50 บาท ลดลง 0.40 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 854.63 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ลดลง 0.25 บาท