สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เห็นร่วมในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาตลาดทุนโดยรวม โดยจะจัดตั้งกองทุน CMDF ที่เป็นนิติบุคคลเฉพาะจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายหลักทรัพย์ แยกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และให้มีการบริหารอย่งาคล่องตัวในลักษณะของเอกชน
ทั้งนี้ ก.ล.ต.และตลท. จะสรุปรายละเอียดกฎหมายการจัดตั้งกองทุน CMDF และเสนอกระทรวงการคลังได้ภายใน 1 เดือนจากนี้ ซึ่งจะมีความชัดเจนทั้งในส่วนของใช้เงินจัดตั้งกองทุน ,เงินนำส่งกองทุน ,วัตถุประสงค์การใช้เงิน และอื่น ๆ
สำหรับการเปิดรับฟังความคิดเห็นการแก้กฎหมายหลักทรัพย์ในประเด็นเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุน CMDF ที่ผ่านมา พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยมีเรื่องที่เห็นด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ คือ การแยก CMDF ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อทำบทบาทหน้าที่พัฒนาตลาดทุนโดยรวมให้ชัดเจน และเงินที่โอนมาให้ CMDF ต้องไม่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ในฐานะที่อ่อนแอ
ผลการรับฟังความคิดเห็นแทบทุกฝ่ายเห็นว่า CMDF ไม่ควรถูกบริหารงานโดยภาครัฐ แต่ควรมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ มีกรรมการที่มาจากทางการเพียงบางส่วน และมีกรรมการที่เป็นผู้แทนของภาคตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งจะสามารถให้มุมมองในการดำเนินการของ CMDF ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
สำหรับประเด็นการนำส่งเงินให้แก่ CMDF ในอนาคต ทุกฝ่ายเห็นร่วมกันว่า ควรจะต้องมีการคำนึงถึงความสามารถของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะลงทุนและดำเนินการต่าง ๆ ในระยะยาวได้
ดังนั้น รมว.คลัง จึงได้จัดประชุมระหว่างผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงการคลัง , ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งทุกฝ่ายได้รับฟังความเห็นข้างต้น และมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะต้องปรับปรุงกฎหมายหลักทรัพย์หรือหาทางออกของกฎหมายในประเด็น ให้จัดตั้งกองทุน CMDF ที่เป็นนิติบุคคลเฉพาะจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายหลักทรัพย์ แยกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ , กองทุน CMDF โดยมีการบริหารอย่างคล่องตัวในลักษณะของเอกชน ไม่เป็นหน่วยงานของรัฐ
กองทุน CMDF จะดำเนินงานโดยตลาดหลักทรัพย์ และ accountable ต่อ คณะกรรมการ CMDF ซึ่งประกอบด้วย ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ เป็น ประธานกรรมการ CMDF , ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เป็น กรรมการและเลขานุการ ,ตัวแทนจากภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และเลขาธิการ ก.ล.ต. , ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคตลาดทุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคตลาดทุนโดยรวมที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แต่งตั้ง
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรมีเงินเพียงพอในการดำเนินงาน การลงทุนทั้งปัจจุบันและอนาคตเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ส่วนเงินที่เหลือก็แยกออกมาที่ CMDF และหากในอนาคตตลาดหลักทรัพย์ฯมีความจำเป็นที่ต้องการทุนเพิ่ม CMDF สามารถใส่ทุนเพิ่มให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
หลังจากนี้กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้ร่วมกันหารือในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามหลักการที่กล่าวข้างต้น
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า หลังจากนี้ก.ล.ต.และตลท. จะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็น คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 เดือน และจะเสนอให้แก่กระทวงการคลังพิจารณาตรวจสอบ พร้อมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึ่งหากครม.อนุมัติก็จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าอาจจะใช้ระยะเวลาราว 3-4 เดือน หลังจากนั้นก็จะส่งเรื่องกลับมาที่ครม. และครม.เห็นว่าสิ่งที่กฤษฎีกาพิจารณาแล้วไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากหลักการเดิมก็จะมีการส่งเข้า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาสักระยะ
"การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะมีการแก้ไขรายละเอียดทั้งหมดให้มีความสอดคล้องกันไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเงินประเดิมตั้งกองทุน การนำส่งกำไรรายปี และวัตถุประสงค์การใช้เงิน และอื่น ๆ ซึ่งจะคำนึงถึงการลงทุนในอนาคตของตลท. และถ้าหากตลท.มีความต้องการที่จะใช้เงินฉุกเฉินก็สามารถที่จะนำเงินกลับมาได้แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากกองทุน"นายรพี กล่าว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า การทำหน้าที่ของ ตลท.ยังคงดำเนินการต่อไป ส่วนการทำงานให้กับกองทุน CMDF ก็มีการแยกส่วนจากตลท. แต่จะใช้พนักงานจากตลท.เข้าไปทำหน้าที่ให้ในส่วนของแอดมิน,การบริหารจัดการกองทุน และการดูแลเรื่องของการลงทุน เป็นต้น