(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ-Wait & See รอประเด็นใหม่ หวั่นแรงกดดันจากราคาน้ำมันร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 6, 2017 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ ในลักษณะ Wait & See รอประเด็นใหม่ที่จะเข้ามา เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงถึงทรงตัว ภายหลังจากราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงแรงกว่า 4%

โดยปัจจัยที่จะต้องติดตามเป็นตัวเลขการจ้างงานที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ และการประชุม G20 ที่จะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี คงจะโฟกัสไปที่แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/60 มากกว่า ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง และนักลงทุนคงจะเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวตามประเด็นที่เกิดขึ้น

พร้อมให้แนวรับ 1,570-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,577-1,585 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,478.17 จุด ลดลง 1.10 จุด (-0.01%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,150.86 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด (+0.67%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,432.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด (+0.15%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 19.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.27 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 52.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 24.13 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.96 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.16 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.ค.60) 1,575.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด (+0.06%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 32.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ก.ค.60) ปิดที่ 45.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.94 ดอลลาร์ หรือ 4.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.ค.60) ที่ 6.76 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.03 แนวโน้มอ่อนค่า หลังดอลล์แข็งขานรับรายงานการประชุมเฟด
  • กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้ขึ้นเป็น 3.5% จากคาดการณ์เดิม 3.4% และในปี 2561 จีดีพีโต 3.7% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้น ส่งผลให้การส่งออกขยายตัวดี คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 5% ในปีนี้
  • บอร์ดกสทช.ยกเลิกลงทะเบียนโอทีทีเดิม วางแนวทางใหม่จัดทำร่างประกาศฯ เสนอบอร์ดใน 30 วัน ก่อนประชาพิจารณ์ คาดแล้วเสร็จ 60 วัน ส่งประกาศราชกิจจาฯ "ฐากร" มั่นใจทำงานทัน ก่อนกรรมการหมดวาระ 6 ต.ค.นี้
  • ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ได้เห็นชอบรับร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ ว่าด้วยการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ พ.ศ. 2560 หรือโครงการ 1.5 หมื่นล้านบาท หลังจากระเบียบผ่านการอนุมัติแล้ว
  • กรอ.เผยยอดขอร.ง. 4 ช่วง 6 เดือนแรกของปีหดจากปีก่อน 2.03% ชี้เอกชนยังรอดูสถานการณ์ครึ่งปีหลัง ฟาก กนอ.ติดตามสถานการณ์ฝน หวั่นกระทบนิคมอุตสาหกรรม
  • กกร.ปรับเป้าส่งออกเพิ่มเป็นปีนี้โต 3.5-4.5% ขณะที่เอกชนพอใจ คสช. ใช้ม.44 ยืดใช้ พ.ร.ก.แรงงานใหม่ออกไป 180 วัน เพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้องแต่ยังไม่ชัวร์ว่าจะเพียงพอหรือไม่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • NCL-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 63,635,200 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 12 เดือนนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 30 มิถุนายน 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 ธ.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 มิ.ย. 2561
  • SAWAD (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 59 บาท มีแนวโน้มขยายสินเชื่อเชิงรุก ทั้งการขยายสาขาในประเทศ การขยายสินเชื่อเข้าสู่กลุ่มประเทศ CLMV และการควบรวม BFIT ที่ก่อให้เกิดโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต ทั้งประเภทสินเชื่อที่นำเสนอ และต้นทุนทางการเงินที่คาดว่าจะต่ำลง คาดกำไรปี 2560 อยู่ที่ 2,636 ล้านบาท +32.3%YoY
  • KKP (ฟินันเซีย ไซรัส) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสซื้อเพื่อรับปันผล คาดขึ้น XD งวด 1H60 ช่วงต้น ก.ย. ถ้าจ่ายเท่า 1H59 ที่ 2 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นผลตอบแทน 3% โดยทั้งปีคาดจ่ายไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ 6 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเกือบ 9% ต่อปี พร้อมคาดกำไร 2Q60 +5%Q-Q, +24%Y-Y จากสินเชื่อที่โต 5%YTD แรงกว่ากลุ่มที่โตเพียง 1%YTD ขณะที่ 2H60 จะมีการรับรู้งาน IB ทั้ง IPO หุ้นใหญ่และ Thailand Futures Fund รวมถึงกำไรจากการขาย NPA และเดือนที่ผ่านมา ราคา KKP แกว่ง Underperform กลุ่มอยู่ 5% ซึ่งเป็นระดับที่มักฟื้นกลับตามพฤติกรรมช่วง 1 ปีที่ผ่านมาด้วยความน่าจะเป็น 90%
  • CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 32 บาท คาดกำไร 2Q60 ที่ 3,017 ลบ. +28%Q-Q จากปริมาณไก่ส่งออกที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจกุ้งฟื้น และอาการสัตว์ที่ปรับตัวลง แต่เมื่อเทียบ Y-Y คาด -36% จากธุรกิจหมูที่แย่ทั้งไทยและเวียดนาม โดยคาดกำไรกลับมาโดดเด่นใน 2H60 เพราะ 3Q60 เป็น High Season และคาดธุรกิจหมูในเวียดนามจะขาดทุนลดลง ส่วนดีลซื้อกิจการ 2 แห่ง แม้ขนาดไม่ใหญ่แต่จะเป็นใบเบิกทางสู่ยุโรป
  • MGT (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 3.47 บาท คาดกำไรปี 60 ที่ 52 ลบ. (+58%YoY) โดยได้แรงหนุนจากการตลาดเชิงรุกและลูกค้าอุตสาหกรรมพลาสติกยังคงขยายตัวได้ดีกว่าอุตสาหกรรมอื่น ขณะที่คาดว่าจะสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นได้ที่ 27%จากลดการขายผ่านตัวแทนและขายผ่านสาขาตัวเอง นอกจากนี้ต้นทุนบริหารจัดการส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ทำให้มี economy of scale เมื่อมีการเพิ่มยอดขาย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ