TFD เผยนิคมฯ ทีเอฟดีเฟส 2 ผ่าน EIA แล้วเตรียมพร้อมขายทันที เล็งขึ้นเฟส 3 อีก 1.5 พันไร่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 31, 2017 09:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชัย เตชะอุบล รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) เปิดเผยว่า โครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 ทั้งหมดจำนวน 841 ไร่ ได้ผ่านการอนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายแล้ว ซึ่งทำให้สามารถจัดสรรที่ดินและออกโฉนดเพื่อขายต่อไปได้ทันที

ทั้งนี้ โครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 มีทำเลเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 1 โดยตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ถือว่าอยู่ในโซนแผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน มูลค่าโครงการทั้งสิ้นราว 7 พันล้านบาท

"ปีนี้คงเทิร์นอะราวด์ได้ไม่ยาก เพราะตอนนี้ทีเอฟดี 2 ได้รับอนุมัติ EIA ทั้งโครงการแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมามีลูกค้าต่างชาติเจรจาติดต่อขอซื้อพื้นที่เพื่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อยู่หลายราย และก็มีลูกค้าคนไทยแสดงความสนใจเข้ามาด้วยเช่นกันเพราะที่ดินของเราอยู่บนทำเลที่ดีมาก จึงมั่นใจว่าไม่นานก็น่าจะขายได้ทั้งหมดตามเป้าหมาย สามารถรับรู้รายได้ และมีแนวโน้มพลิกฟื้นผลประกอบการที่ดีขึ้นได้ทันที"นายอภิชัย ระบุ

ขณะที่บริษัทได้เตรียมพัฒนาเฟส 3 เพิ่มอีก 1,500 ไร่ และจะขอ EIA ในพื้นที่โซนที่เหลือ จากพื้นที่ทั้งหมด 2.5 พันไร่ มูลค่ารวม 2.25 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคตด้วย

นายอภิชัย กล่าวอีกว่า ในปี 60 ยังมั่นใจว่าจะผลักดันรายได้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ขยายตัวกว่า 300% จากปีก่อนที่ทำได้ 986 ล้านบาท เนื่องจากทุกธุรกิจได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม, โรงงานมาตรฐานและคลังสินค้า, อาคารชุดพักอาศัย, สำนักงานให้เช่า, รับบริหารทรัพย์สิน และบริหารจัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะยอดขายที่ดินซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 200 ไร่ จะได้รับผลดีโดยตรงจากการที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 ผ่าน EIA แล้ว

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/60 บริษัทอยู่ระหว่างเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมและเรสซิเด้นท์ระดับพรีเมียม 34 ชั้น จำนวน 4 ตึก รวมทั้งสิ้น 1,337 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท บนพื้นที่ 8 ไร่เศษ ขนาดพื้นที่ก่อสร้าง 120,000 ตารางเมตร ย่านถนนรัชดาภิเษก ติดรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT โดยเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท คันทรี การ์เด้น กรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากจีน คาดว่าน่าจะเริ่มการรับรู้รายได้ในส่วนนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้ภาพรวมตลอดครึ่งปีหลังเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

ด้านโครงการ The Harbour View Residents คอนโดมิเนียม 25 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ในย่านคลองเตย มูลค่าราว 1.64 พันล้านบาท ที่ตกลงขายไปแล้สทั้งหมดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาและได้รับเงินชำระไปแล้ว 2 งวดรวม 82 ล้านบาท เหลือการทยอยรับรู้ยอดชำระอีกทั้ง 3 งวด โดยงวดสุดท้าย 697 ล้านบาท จะรับรู้ภายในวันที่ 30 มิ.ย.61 ซึ่งจะสนับสนุนภาพรวมตลอดครึ่งหลังปี 60 ไปจนถึงปีหน้าเติบโตให้ได้อีก

"ยอดขายจากโครงการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นการเติบโตแบบก้าวกระโดดในธุรกิจที่อยู่อาศัย เราตั้งใจจะมีความร่วมมืออื่นๆ กับพันธมิตรรายสำคัญนี้อีก นอกเหนือจากโครงการที่เราพัฒนาเอง ซึ่งตอนนี้ฐานเงินทุนของบริษัทฯ มีความแข็งแรงมาก หลังจากได้เงินสนับสนุนจากทั้งการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) รับเงินมาราว 500 ล้านบาท และยังจะมีกระแสเงินสดเข้ามาอีก จากการบันทึกรับรู้โครงการอื่นๆที่ขายได้ไปแล้วเป็นจำนวนมากด้วย เช่น The Harbour View Residents มีการชำระมาแล้ว 2 งวด เหลืออีก 3 งวดจะรับรู้ทั้งหมดไม่เกินกลางปีหน้า ทำให้จากนี้ไปเรามีความคล่องตัวที่จะลงทุนเพิ่มเติมไปพร้อมๆ กับพลิกมีกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"นายอภิชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ