(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ อิงอ่อนลงเล็กน้อย หลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน,จับตาประชุมโอเปก-นอกโอเปก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 8, 2017 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ อิงอ่อนลงเล็กน้อย เนื่องจากวันนี้มีหุ้น PTTEP ขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯ -0.6 จุด นอกจากนี้ตลาดฯยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา

ขณะที่ยังต้องรอดูผลการประชุมเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปก ที่มีขึ้นในวันที่ 7-8 ส.ค.นี้ด้วย โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันบางประเทศไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงในการลดปริมาณการผลิตลงอย่างเต็มรูปแบบ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่ถึง 0.1% ดังนั้น ตลาดฯคงจะเป็นลักษณะนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่ก็ยังมีการเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัว ตามผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 ที่ออกมาดี และมีปันผล

พร้อมให้แนวรับ 1,570-1,572 ถัดไป 1,564 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,582 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,118.42 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด (+0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,383.77 จุด เพิ่มขึ้น 32.21 จุด (+0.51%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,480.91 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด (+0.16%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 6.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.27 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 5.76 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 19.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.93 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.64 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 37.80 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ส.ค.60) 1,573.67 จุด ลดลง 4.59 จุด (-0.29%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 712.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ส.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ส.ค.60) ปิดที่ 49.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ส.ค.60) ที่ 7.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.28 แนวโน้มทรงตัวในกรอบ 33.20-33.35 ตลาดรอดูตัวเลขส่งออกของจีนวันนี้
  • กระทรวงคลัง มั่นใจเงินบาทแข็ง ไม่กระทบการส่งออกช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อ"แบงก์ชาติ"คอยดูแลไม่ให้แข็งค่ามากเกินไป ชี้สาเหตุการแข็งค่าจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งยังมีเงินไหลเข้าลงทุนโดยตรงจาก 2 ดีลใหญ่ จากการเข้ามาลงทุนของ CTBC ใน LHBANK และการจะเข้ามาลงทุนในบริษัทประกันของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ซึ่งจะมีเงินเข้ามาอีกประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท แต่คาดเป็นภาวะชั่วคราว พร้อมจี้ตลาดทุนปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มองอนาคตตัวกลางเช่นตลาดหลักทรัพย์ แบงก์พาณิชย์ อาจถูกลดความสำคัญลง
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ส.ค. ททท.จะประชุมร่วมกับเอกชนด้านการท่องเที่ยว เช่น สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) สายการบิน เพื่อวางแนวทางการหักลดหย่อนภาษีการเดินทางช่วงปลายปี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนไทยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้กับชุมชน และเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวในประเทศอีก 10-15%
  • นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยในงานโครงการพัฒนาเครือข่ายสถาบันวิชาการระบบขนส่งทางราง (Thailand Rail Aca demy) ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมแผนการลงทุนระยะ 8 ปี (2561-2568) เพื่อรองรับเส้นทางรถไฟทางคู่รวม 16 เส้นทาง ระยะทางรวม 3,169 กิโลเมตร (กม.) โดยจะจัดซื้อรถไฟ 286 คัน ภายในปี 2563 ประกอบด้วย การจัดซื้อรถไฟดีเซลจำนวน 186 คัน การจัดซื้อรถจักรเพิ่มขึ้น 75% จำนวน 100 คัน จากเดิมที่มี 130 คัน ตลอดจนการเช่าและซ่อมบำรุงรถจักรอีก 50 คัน
  • กกพ.เปิดรับสมัครเอสพีพี ไฮบริด เฟิร์ม 300 เมกะวัตต์ ราคา 3.66 บาท/หน่วย คาดยื่นซองได้ในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ พร้อมประกาศรายชื่อภายใน ธ.ค.60 มั่นใจก่อนปี 64 ซีโอดีเน้นการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KKP (ธนชาต) เป้า 77 บาท ราคาหุ้นที่ปรับลดลง 10% หลังกำไร 2Q60 อ่อนแอเป็นโอกาส "ซื้อ" เนื่องจากกำไร 2Q60 ที่อ่อนแอเป็นผลจากรายได้การลงทุน และการขาย NPA ที่น้อยกว่าปกติมาก และคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติช่วงครึ่งปีหลัง, NPL ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นหนี้อสังหาฯ ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 182% ของมูลค่า ขณะที่ NPL ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจ leasing รถยนต์เป็นส่วนรถยนต์มือ 2 ที่มี yield สูงกว่าปกติ และเงินกองทุน Tier I สูง 15.3% ทำให้คาดว่า KKP จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ 6 บาท/หุ้น ปีนี้ คิดเป็น dividend yield 8.9%
  • TU (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 24.70 บาท กำไร 3Q60 มีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นซึ่งปริมาณการขายเพิ่มขึ้น และมีการปรับราคาขายสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นได้บางส่วน อัตรากำไรของธุรกิจแซลมอนและกุ้งคาดจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องหลังการปรับเพิ่มราคาขาย นอกจากนั้น ในเดือนส.ค. มีการขายธุรกิจเรือซึ่งมีผลขาดทุนออกไป ซึ่งจะทำให้ TU ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากธุรกิจเรืออีกต่อไป ทั้งนี้ TU ประกาศจ่ายเงินปันผล 1H60 เท่ากับ 0.32 บาท/หุ้น (XD 18 ส.ค.) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนครึ่งปีที่ 1.6%
  • MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 39 บาท แนวโน้มกำไร 2Q60 สร้าง new high ต่อ คาด +5% Q-Q, +88% Y-Y บนสมมติฐานสินเชื่อ +6% Q-Q, +60% Y-Y หักล้างต้นทุนทางการเงินที่ขยับขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้กำไร 1H60 ก้าวกระโดดถึง 90% Y-Y คุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแกร่ง คาด NPL ทั้งปีประมาณ 1% ต่ำสุดในกลุ่มการเงิน คาด coverage ratio 220%
  • INTUCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 64 บาท กำไรสุทธิใกล้เคียงคาด -8% Q-Q, -63% Y-Y และประกาศจ่ายปันผล 1.25 บาท/หุ้น Yield 2% XD 16 ส.ค. โดยได้ปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 3% ตามกำไรของ ADVANC ที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ