EGCO ลุยขยายพอร์ตไฟฟ้าตปท.เริ่มเจรจาสัญญารองรับพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิในเวียดนาม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 24, 2017 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของบมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 60 เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยให้ความสำคัญกับธุรกิจไฟฟ้าซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญ และเน้นขยายธุรกิจในต่างประเทศที่มีฐานอยู่แล้วและสามารถขยายตลาดได้อีก เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อย่างน้อย 10%

“ปัจจุบันต้องยอมรับว่าโอกาสการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนโยบายการพัฒนาไฟฟ้ามุ่งไปที่โรงไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล ดังนั้น แนวทางการเติบโตของบริษัทในอนาคต จะยังคงขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เรามีฐานการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว และจะพัฒนาแบบต่อยอดจากพื้นที่ที่มีอยู่ เช่น ฟิลิปปินส์ ที่เราเข้าไปลงทุนตั้งแต่ปี 51" นายชนินทร์ กล่าว

นายชนินทร์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในต่างประเทศ 4 โครงการ ได้แก่ โครงการในสปป.ลาว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ "ปากแบง" กระบวนการรับฟังความคิดเห็น โดยคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเพื่อเริ่มเจรจาค่าไฟฟ้า (Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1" ร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ผ่านการพิจารณาจากอัยการสูงสุดแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ.และเจรจาสัญญาเงินกู้กับกลุ่มธนาคารพาณิชย์

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย (หน่วยที่ 3 และ 4)" ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการเจาะสำรวจแหล่งไอน้ำเพิ่มเติมเพื่อยืนยันปริมาณไอน้ำสำหรับโรงไฟฟ้า หน่วยที่ 3 และการเจรจาค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าอินโดนีเซีย

โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน “กวางจิ" ประเทศเวียดนาม อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเริ่มเจรจาสัญญาหลักต่าง ๆ เช่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม สัญญาเช่าที่ดิน สัญญาสัมปทานและสัญญารับประกัน กับรัฐบาลเวียดนาม

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปีนี้ยังคงเป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำไรสุทธิ 6,494 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 1,857 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% และหากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,482 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% เนื่องจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนั้น เอ็กโก กรุ๊ป ยังมีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยโรงไฟฟ้า “คลองหลวง" จ.ปทุมธานี ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป และคาดว่าโรงไฟฟ้า SPP ประเภทโคเจนเนอเรชั่นอีกแห่งหนึ่ง คือ โรงไฟฟ้า “บ้านโป่ง" จ.ราชบุรี กำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอีก

ณ เดือนกรกฎาคม 2560 เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 27 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,352 เมกะวัตต์ ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 750 เมกะวัตต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ