(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบรอผลคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าว-จะผันผวนไปตามคำตัดสิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 25, 2017 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบรอผลคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี"ยิ่งลักษณ์"อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลยในวันนี้(25 ส.ค.) ก่อน และเมื่อคำพิพากษาฯออกมาแล้ว ตลาดฯก็จะผันผวนไปตามคำตัดสิน ซึ่งถ้าออกมาเป็นบวกดัชนีฯคงจะทะลุแนว 1,580 จุดขึ้นไปได้ แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบดัชนีฯมีโอกาสไหลลงต่ำกว่าระดับ 1,570 จุด อย่างไรก็ดีขึ้นอยู่กับบทลงโทษด้วย แต่เชื่อว่าดัชนีฯไม่น่าจะหลุดแนว 1,560 จุด และมีโอกาสที่จะดีดกลับในระหว่างวันได้ อย่างไรก็ดี สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไปได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในช่วงรอดูการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,585 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,783.40 จุด ลดลง 28.69 จุด (-0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,271.33 จุด ลดลง 7.08 จุด (-0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,438.97 จุด ลดลง 5.07 จุด (-0.21%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 47.35 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 20.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.90 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.40 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ส.ค.60) 1,575.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด (+0.16%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,835.97 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ส.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ส.ค.60) ปิดที่ 47.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 98 เซนต์ หรือ 2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ส.ค.60) ที่ 8.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.33 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาด Wait & See คดีจำนำข้าว
  • "ยิ่งลักษณ์-บุญทรง" พร้อมรับฟังคำพิพากษา 2 คดีข้าววันนี้ พร้อมสู้คดีถึงที่สุดหากถูกพิพากษาลงโทษ เล็งรวบรวมข้อมูลหาช่องทางอุทธรณ์ ระบุไม่มีอะไรน่ากังวล ขณะที่ "วิษณุ" แจงกรณีจำเลยคดีข้าวจีทูจีมาไม่ครบ สามารถอ่านคำพิพากษาเฉพาะคนที่มาได้หรือ เลื่อนอ่านคำพิพากษา แล้วแต่ดุลพินิจศาล "ยิ่งลักษณ์" โพสต์บอกมวลชนรอฟังข่าวที่บ้าน ชี้อาจไม่ได้เจอหน้าเพราะถูกกันพื้นที่
  • ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) กล่าวว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยในปีนี้น่าจะเติบโตที่ระดับ 3.5% สูงขึ้นจากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 3.2% จากการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตได้ดี ซึ่งเติบโตได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การปรับประมาณขึ้นครั้งนี้ได้รวมการขยายตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ที่ 3.7% แล้ว
  • กระทรวงคมนาคมจำเป็นต้องประกาศล้มประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน วงเงิน 3,387 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีเอกชนรายใดมายื่นข้อเสนอประกวดราคา ส่งผลให้ต้องประกาศยกเลิกโครงการเพื่อเปิดประมูลใหม่ตามเงื่อนไขจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล แม้ว่าก่อนหน้านี้มีเอกชนซื้อซองไป 3 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ 2.บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป และ 3.กิจการร่วมค้า เจวีซีซี ช.ทวี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BANUP (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 22 บาท แนวโน้มราคาถ่านหินดีขึ้น ปรับประมาณการกำไรขึ้น 51-95% ปี 2560-2561 ด้วยกำไรเติบโต 401% ปีนี้, PE 8x, PBV 1x, EV/EBITDA 6.7x และ Dividend yield 8.3% ด้านราคาหุ้นที่ underperform ราคาถ่านหินที่ปรับสูงขึ้นในช่วงตั้งแต่ พ.ค.
  • KKP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 73 บาท เป็น 1 ใน 3 หุ้นกลุ่มแบงก์ที่ชอบมากสุด จุดเด่นอยู่ที่ปันผล ซึ่งประกาศจ่ายงวด 1H60 ที่ 2 บาท/หุ้น ขึ้น XD 5 ก.ย. 60 จ่ายจริง 22 ก.ย. 60 คิดเป็นผลตอบแทน 2.9% พร้อมคาดกำไร 3Q60 ฟื้นตัวราว 25% Q-Q เพราะค่าใช้จ่ายที่ฉุดกำไร 2Q60 จะไม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะดีขึ้นจากงาน IB ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ที่ 5,774 ลบ. +5% Y-Y ด้านราคาหุ้นที่วัดจาก Price Ratio เพิ่งเริ่มกลับมา Outperform กลุ่มแบงก์ในรอบ 1 เดือน จึงมีโมเมนตัมที่ดีต่อการปรับตัวขึ้นต่อ
  • PPS (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 2.07 บาท รายงานกำไร 1H60 ที่ 33 ล้านบาทเติบโต 403%YoY และคิดเป็น 63% ของประมาณการกำไรที่ 51 ล้านบาท โดยรายได้เติบโตขึ้น 52%YoY เนื่องจากรับรู้งานโครงการในขนาดใหญ่ทั้งไอคอนสยาม สุวรรณภูมิเฟส 2 และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 1Q60 ที่ 21% สู่ 27% เพราะการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น นอกจากนี้ไม่มีการตั้งสำรองหนี้สูญจำนวน 6 ล้านบาทเหมือนใน 2Q59 และมีการโอนกลับหนี้สงสัยจะสูญอีก 1.5 ล้านบาท พร้อมมีความเห็น คาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโต หากได้งานเพิ่มจากการควบคุมการก่อสร้างรถไฟรางคู่ในเดือน ก.ย.นี้ การประมูลรถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) มูลค่างานรวมราว 5 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ