(เพิ่มเติม) "เกศรา"มั่นใจตลาดหุ้นไทยรับอานิสงส์ Thailand 4.0-EEC หนุนศก.โตยาวดึงดูดต่างชาติเข้าลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 29, 2017 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงาน Thailand Focus 2017 : Establishing the New Engine ว่า ในปีนี้รัฐบาลได้ดำเนินการหลายกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เช่น กลยุทธ์ประเทศไทย 4.0, การเร่งพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และการกระตุ้นและสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาแพลทฟอร์มการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยในระยะยาว

ขณะนี้กลยุทธ์ประเทศไทย 4.0 ได้นำพาประเทศไทยมาสู่ทางแยกที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ กว่า 200 บริษัทได้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV และอาเซียน

“งาน Thailand Focus 2017 จะเป็นการวิเคราะห์การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาตลาดทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย รวมถึงการขยายตัวของตลาดฟินเทคในอุตสาหกรรมทางการเงินในอาเซียน" นางเกศรากล่าว

พร้อมระบุว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผลกำไรมากถึง 5.6% ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา และได้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวนถึง 9.4 หมื่นล้านบาท เทียบกับจำนวนเงินปันผลที่จ่ายเป็นจำนวน 8.8 หมื่นล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา จึงเท่ากับว่า บจ.ไทยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของนักลงทุน

นอกจากนี้ ตลท.ได้รับคะแนนการประเมินผลการกำกับดูแลกิจการในระดับสูงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และได้รับการประเมินว่ามีความคล่องตัวในระดับสูงเป็นระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน อีกทั้งมี บจ.ถึง 14 บริษัทที่อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ซึ่งขณะนี้ ตลท.กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำดัชนีของกลุ่ม CLMV ด้วย

สำหรับงาน Thailand Focus ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ส.ค.โดยมีผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกเข้าร่วมงาน 116 ราย ส่วนหนึ่งเป็นนักลงทุนกลุ่มระดับ Platinum และมีมูลค่าสินทรัพย์รวม (AUM) สูงถึง 2.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจกับตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

จุดเด่นของงานในครั้งนี้จะเป็นการให้ข้อมูลโดยตรงจากผู้บริหาร บจ.ที่ร่วมให้ข้อมูล 142 บริษัทสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมาจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งมีการประชุมในรูปแบบ one-on-one meeting และ group meeting ธุรกิจ รวมทั้งสิ้น 1,464 ครั้ง มากที่สุดตั้งแต่มีการจัดงาน ซึ่งสามารถนำเสนอข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของจากนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ Thailand 4.0 ของภาครัฐ

นางเกศรา กล่าวว่า ทิศทางความสนใจของนักลงทุนต่างชาติต่อตลาดทุนไทยดีขึ้น และการให้เวลากับตลาดหุ้นไทยมากขึ้นจะทำให้ Sentiment การลงทุนจะปรับตัวดีขึ้นไปด้วย ประกอบกับในปัจจุบันค่า P/E ของตลาดหุ้นไทยถือว่าใกล้เคียงกับตลาดหุ้นมาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่อยู่ในระดับประมาณ 15-16 เท่าแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ยังอยู่ในระดับ 19-20 เท่า ถือว่าสูงกกว่าตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก

ขณะนี้เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติไม่ได้มองว่าตลาดหุ้นไทยแพงแล้ว ดังนั้น การจะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาสนใจตลาดหุ้นไทยก็คือเรื่องผลประกอบการของ บจ.มากกว่า ซึ่งมองว่างาน Thailand Focus จะช่วยให้นักลงทุนต่างชาติจะมีความเข้าใจในประเทศไทย บจ.ไทย และทิศทางการเติบโตในอนาคต

"ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ถือว่าแพงแล้วเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศที่ก่อนหน้านี้เราแพงกว่าเค้า ซึ่งหากราคาไม่ได้ห่างกันแบบนี้เชื่อว่าประเทศไทยจะได้รับความสนใจอีกครั้ง ส่วนปริมาณการซื้อขายที่ปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยนั้น หากไปดูจริงๆแล้วไม่ได้ลดลงเพียงตลาดเดียว แต่ลดลง และดัชนีอยู่นิ่งๆในทุกตลาด ยกเว้นตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งก็เป็นในทิศทางเดียวกันทั่วโลก แต่เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะปริมาณการซื้อขายต้องอยู่ที่นักลงทุน ซึ่งปริมาณการซื้อขายของไทยที่หายไปส่วนใหญ่จะมาจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศเสียมากกว่า แต่หากไปดูจริงๆแล้วนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบันในประเทศก็ยังซื้อขายอยู่ในระดับเดิม"นางเกศรา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ