THAI เซ็นร่วมมือเซ็นทรัลแล็บไทยตรวจสอบวัตถุดิบให้ครัวการบินไทย 2 ปี เพิ่มความมั่นใจลูกค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 18, 2017 16:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ร.อ.มนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนา อย่างยั่งยืน บมจ. การบินไทย(THAI) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย เป็นระยะเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยจะร่วมมือในด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ รวมทั้งด้านการส่งเสริมและพัฒนาความสามารถทางธุรกิจร่วมกัน ในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการ การฝึกอบรม และพัฒนาบุคลากร ให้มีองค์ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ เพื่อให้อาหารและผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยปราศจากสารเคมี สารตกค้าง และสารปนเปื้อนต่างๆ

ทั้งนี้ ฝ่ายครัวการบิน ดำเนินการผลิตอาหารเพื่อให้บริการ แก่ผู้โดยสารบนเครื่องบินการบินไทยและสายการบินลูกค้ามากกว่า 60 สายการบิน นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจภาคพื้น ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร โดยมีกระบวนการผลิตอาหารและบริการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นที่ยอมรับ จากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศและองค์การอนามัยโลก อาทิ ระบบจัดการคุณภาพ (ISO 9001 : 2015) ระบบการประกันความปลอดภัยของอาหาร (Hazard Analysis and Critical Control Points : HACCP) ระบบการจัดการสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practices : GMP) รวมทั้งมีการส่งตัวอย่างวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร รวมทั้งตัวอย่างอาหารไปตรวจสอบและวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการมาโดยตลอด

นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ เซ็นทรัลแล็บไทย หรือ แล็บประชารัฐ เปิดเผยว่า แล็บประชารัฐพร้อมที่จะให้บริการตรวจวิเคราะห์แก่ครัวการบินไทยอย่างเต็มที่ โดยจะใช้สาขากรุงเทพฯ และฉะเชิงเทราซึ่งห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นแม่ข่ายให้บริการ ทั้งนี้การลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันครั้งนี้ เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าและการบริการแบบไทยโดยคนไทย ด้วยอาหารจากวัตถุดิบคุณภาพ ปลอดสารพิษ ตามพันธกิจหลักในการให้บริการของการบินไทยด้วยเสน่ห์แห่งความ เป็นไทยบนมาตรฐานระดับสากล เพื่อส่งมอบการบริการที่ดีที่สุดระดับพรีเมี่ยมตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้บริการแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งถือเป็นการเชื่อมโยงความร่วมมือที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

“เซ็นทรัลแล็บไทย เป็นแล็บของรัฐ ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง ร้อยละ 49 และ สสว. ร้อยละ 51 มี 6 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา, สมุทรสาคร และสงขลา มีบุคลากร 450 คน มีศักยภาพที่จะรองรับการตรวจและวิเคราะห์ทางห้องแล็บปีละ 400,000 รายการ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการประมาณ 200,000 รายการต่อปี ดังนั้น จึงยังมีขีดความสามารถที่จะให้บริการกับครัวการบินได้อย่างเต็มที่" นายสุรชัยกล่าว

ทั้งนี้ EURLs (European Union Reference Laboratories) แล็บกลางสหภาพยุโรป ได้ประกาศผลให้ Central Lab Thai เพียงรายเดียวของประเทศไทยที่ผ่านกมารทอดสอบด้าน Pesticides Residue พืชควบคุมเฉพาะเพื่อการส่งออกประจำปี 2016 ซึ่งไทยเป็นเพียง 1 ใน 5 ของเอเชีย ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย ที่ผ่านมาการทดสอบ ทั้งนี้ Central Lab Thai ได้ก่นการทดสอบจาก EURLs 3 ปีซ้อน คือ ปี 2014-2016


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ