(เพิ่มเติม) FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าพุ่งเป็นเดือนที่สองจาก ศก.ไทยฟื้นตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 6, 2017 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสันติ กีระนันทน์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน พ.ย.60 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ม.ค.61)อยู่ที่ 165.77 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในภาวะร้อนแรงอย่างมากเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน จากความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ นโยบายทางการเงินของรัฐ และอัตราแลกเปลี่ยน เป็นปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้าติดตาม สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนีฯยังมีการปรับตัวในทิสทางที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนต.ค.

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มบัญชีนักลงทุนต่างประเทศ กลุ่มสถาบันภายในประเทศ และกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับร้อนแรงอย่างมาก ชณะที่กลุ่มนักลงทุนรายบุคคลปรับเพิ่มขึ้น โดยอยู่ในระดับร้อนแรง

ทั้งนี้ หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุดคือ หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (Tourism) ส่วนหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด และปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

"ภาวะการลงทุนในเดือน ต.ค. ตลาดหุ้นไทยยังคงมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นโดยมาอยู่ที่ระดับ 1,700 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ภาวะการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นของสหรัฐยังมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าของแผนปฏิรูปภาษี และผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐ"นายสันติ กล่าว

ภาวะการลงทุนในยุโรป ได้รับผลดีจากการขยายระยะเวลาการทำ QE ไปจนถึงเดือน ก.ย.61 และยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป และภาวะเศรษฐกิจในเอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่นและจีน ที่คาดว่าจากการที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งอีกสมัยทำให้จะยังคงสามารถคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

รวมถึงจากการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน ทำให้คาดว่าจะมีความต่อเนื่องทางนโยบายทางเศรษฐกิจต่อไปจากประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลียังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนเฝ้าติดตาม

ด้านดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือน พ.ย.60 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวที่ระดับ 1.50% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 10 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์-อุปทานในตลาดตราสารหนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย และการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. รอบเดือน พ.ย.อยู่ที่ระดับ 48 สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ในการประชุมครั้งหน้า โดยให้น้ำหนักในปัจจัยหลัก 3ประการ ได้แก่ 1) อัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ 2) เศรษฐกิจภายในประเทศ และ 3) อัตราดอกเบี้ยนโยบายในตลาดการเงินโลก

ขณะที่ดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี และ 10 ปี ในช่วงประชุม กนง. รอบเดือน ธ.ค.60 อยู่ที่ระดับ 86 และ 89 ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้ว ระดับ 69 และ 68 ตามลำดับ โดยดัชนีอยู่ในระดับที่สะท้อนถึงทิศทางที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ตอบแบบสำรวจให้ความสำคัญใน 4 ปัจจัยหลัก คือ 1)อุปสงค์ในตลาดตราสารหนี้ที่มีแนวโน้มลดลง 2)การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ 3)อัตราเงินเฟ้อของไทยที่เริ่มปรับสูงขึ้น 4) แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ