JSP มองธุรกิจช่วง Q4/60 ยังเติบโตดีตามเป้า พร้อมปรับกลยุทธ์ชะลอเปิดโครงการ-เร่งระบายสต็อกสินค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 13, 2017 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 4/60 จะยังเติบโตในทิศทางดี และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งยอดโอนกรรมสิทธิ์ ยอดขาย ยอดโอน โดยมีการปรับกลยุทธ์ชะลอเปิดโครงการใหม่ เร่งบริหารและระบายสต็อกสินค้าโครงการแนวราบ เพิ่มยอดขาย และเร่งโอน

โดยโครงการที่บริษัทจะมุ่งเน้นทำตลาด อาทิ โครงการเจ ซิตี้ อัสสัมชัญ-ศรีราชา, เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง, เจ วิลล่า วงแหวนบางใหญ่ และ เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกในมือกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในต้นปี 2561 โดยในปี 2560 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ที่ 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ตามที่ตั้งเป้าไว้

สำหรับประกอบการงวด 9 เดือนปี 60 บริษัทมีผลประกอบการที่โดดเด่นและเป็นการทำสถิติผลประกอบการเติบโตสูงสุด โดยบริษัทมีรายได้รวม 3,391.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 30.74 ล้านบาท ลดลงจากระดับกำไรสุทธิ 120.95 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 มีรายได้รวม 1,259.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 23.94 ล้านบาท จากระดับขาดทุนสุทธิ 85.25 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลมาจากผลประกอบการพื้นที่เช่า และผลขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้าเนื่องจากเป็นช่วงปีแรก ๆ ของการประกอบการ ซึ่งยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะรับรู้รายได้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/60 และไตรมาส 3/59 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดโอนกรรมสิทธิอสังหาริมทรัพย์เพื่อการจำหน่าย จำนวน 602 ยูนิต และ 316 ยูนิต ตามลำดับ โดยในไตรมาส 3/60 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 1,211.23 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 452.20 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 167.85% และมีรายได้จากการให้เช่าและบริการสำหรับไตรมาส 3/60 เท่ากับ 30.43 ล้านบาท หรือ 2.42 % ของรายได้รวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.21 ล้านบาท

โดยผลประกอบการมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการรับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการ JSP City สุขุมวิท-แพรกษา, รังสิตคลอง1 บางปะกง-บ้านโพธิ์, ติวานนท์-บางกระดี่ และ J Grand (สาทร-กัลปพฤกษ์) จึงส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับยอดทำสัญญาใหม่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดรวม 4,298.59 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับราคาขายโครงการแนวราบที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ