นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทฯมีรายได้เติบโตเกินเป้าที่ 100% โดยปัจจุบันรายได้หลักมาจากยอดรวมปริมาณการขายและให้บริการสาธารณูปโภค (ธุรกิจน้ำ) เกินกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร และมองว่าแนวโน้มธุรกิจน้ำในไตรมาส 4/60 จะเติบโตสูงที่สุดในปีนี้ หากไม่มีการปิดซ่อมบำรุงของโรงงานลูกค้า ส่วนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจะเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 3/60
และในปี 61 โดยภาพรวมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโรงไฟฟ้าที่เริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 60 คือ โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 2 และ โรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 3 สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เต็มที่ทั้งปี และโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ทีเอส 4 จะเริ่ม COD ต้นปีหน้า ขนาดกำลังการผลิต 125 เมกกะวัตต์ คาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 30-33% จากปัจจุบัน 30.33%
ในปีหน้าบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1,800-2,000 ล้านบาท ใช้ในการลงทุนสร้างโรงงานไฟฟ้า 3 แห่งที่เหลือ และสร้างโรงงานน้ำประปาในนิคมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด และโรงบำบัดน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก ทั้งนี้ยังต้องรอการสรุปงบประมาณ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 30 พ.ย.นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทมีการจัดตั้งบริษัทภายใต้ชื่อ ดับบลิวเอชเอยูพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อดำเนินการประกอบธุรกิจลงทุนในกิจการอื่นสำหรับการลงทุนในต่างประเทศ โดยมีการลงทุนระบบสาธารณูปโภคในโครงการน้ำประปาที่ประเทศเวียดนาม มีมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท จะเริ่มสร้างโครงการวางระบบปลายปี 61
นอกจากนี้บริษัทจะมีการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟพื้นที่กว่า 2 ล้านตารางเมตรในนิคมเหมราชทั้งหมด คาดว่าจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่ 150-160 เมกกะวัตต์ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ขายอุปกรณ์และให้บริการติดตั้ง 3-4 ราย ซึ่งน่าจะเริ่มติดตั้งได้ในปีหน้าเช่นกัน