(เพิ่มเติม) HUMAN เคาะราคา IPO หุ้นละ 4 บาท เปิดจอง 30 พ.ย.,1 และ 4 ธ.ค.เข้าเทรด 8 ธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 28, 2017 13:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) กำหนดราคาขายเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 4 บาท โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 30 พ.ย. และวันที่ 1 ,4 ธ.ค.60 ขณะที่คาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 8 ธ.ค.60

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ HUMAN กล่าวว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 4.00 บาท/หุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการเติบโตของบริษัท โดยบริษัทถือเป็นผู้นำในธุรกิจ HR Outsourcing ในประเทศไทย มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ Humatrix เพื่อใช้ในการให้บริการตั้งแต่ปี 48 ปัจจุบัน มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ในทุกอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม สถาบันการเงิน อสังหาริมทรัพย์ สายการบิน สินค้าอุปโภค/บริโภค

สำหรับหุ้น IPO ที่เสนอขายครั้งนี้มีจำนวน 180 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายให้กับประชาชนจำนวน 153 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อยจำนวน 27 ล้านหุ้น โดยแต่งตั้งบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย บล.กรุงศรี, บล.เคที ซีมิโก้ ,บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย), บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.บัวหลวง และบล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย)

นายสมภพ กล่าวว่า จุดเด่นที่สำคัญของ HUMAN คือ รายได้ส่วนใหญ่กว่า 78% เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Recurring Income) เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน และลูกค้ามีความจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ส่งผลทำให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทางกลับกันต้นทุนกว่า 70% เป็นต้นทุนคงที่ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้ผลประกอบการของ HUMAN มีการเติบโตอย่างโดดเด่น

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากำไรสุทธิมีการเติบโตขึ้นจาก 25.58 ล้านบาท ในปี 57 เป็น 71.06 ล้านบาท ในปี 59 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 66.67%ต่อปี ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 60 กำไรสุทธิอยู่ที่ 55.94 ล้านบาท เติบโต 75.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้ HUMAN เป็นอีกหนึ่งบริษัทจดทะเบียนที่น่าสนใจ

"จากการเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) 4 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี, อ.หาดใหญ่ จ. สงขลา, จ. เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ รวมทั้งนักลงทุนสถาบันในประเทศ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนดีมาก จึงมั่นใจว่าทิศทางหุ้น IPO ของ HUMAN จะได้รับความสนใจและตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นเดียวกัน"นายสมภพ กล่าว

ด้านนายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ HUMAN เปิดเผยว่า จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวน 720 ล้านบาท ไปใช้เพื่อรองรับการเติบโต โดยจะนำไปใช้เพื่อย้ายสำนักงานแห่งใหม่ จำนวน 25 ล้านบาท โดยสำนักงานแห่งใหม่จะมีพื้นที่รวมประมาณ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเพียงพอกับการเติบโตของธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยและคาดว่าจะสามารถย้ายไปสำนักงานแห่งใหม่ได้ภายในไตรมาส 2 ปีหน้า

ลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 125 ล้านบาท เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น , ตั้ง Learning Center จำนวน 20 ล้านบาท และลงทุนในบริษัทอื่นซึ่งจะต้องเป็นธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัทจำนวน 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับรายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่อง เนื่องจากซอฟต์แวร์ของบริษัท สามารถแข่งขันกับซอฟต์แวร์ชั้นนำในระดับโลกได้ ประกอบกับบริษัท เป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ทรัพยากรบุคคลชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้รายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเป็นประจำที่มีการเติบโตมาโดยตลอด ในอนาคตบริษัทวางแผนการลงทุนในธุรกิจที่จะสร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัท เพื่อให้บรรลุพันธกิจในการเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยจะเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของกลุ่มบริษัทเพื่อที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทในระยะยาว

นายสุนทร กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 30% จากปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตตามลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่กว่า 10 ราย ที่จะเข้ามาสร้างรายได้เพิ่มในปีหน้า พร้อมกันนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) สำนักงานบัญชีที่มีคุณภาพ 3 แห่ง โดยเบื่องต้นตั้งงบลงทุนราว 100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไม่ช้า

ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อเข้าร่วมลงทุนขยายการรับงานในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย จากปัจจุบันมีการขยายกิจการรับงานไปยังประเทศสิงคโปร์ และประเทศมาเลเซีย พร้อมกันนี้ยังมองหาการขยายงานไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

"ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมารายได้เติบโตเฉลี่ยที่ไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งเราก็ยังมองว่าจะสามารถเติบโตในทิศทางแบบนี้ต่อไป โดยเราจะเน้นการขยายทั้งในและต่างประเทศ และมีสัดส่วนรายได้จากรายได้ประจำราว 70% และส่วนที่เหลือจะมาจาก Financial Solutions 20-30%"นายสุนทร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ