นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทมั่นใจว่ารายได้จากการขายตั๋วโดยสารจะเติบโต 6-8% ตามเป้าหมายที่ 1.5 แสนล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานเป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ
อย่างไรก็ดี ในแง่ของกำไรสุทธิยังคาดเดาได้ยากว่าจะทำได้ตามแผนหรือไม่ เนื่องจากมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวน โดยรายได้มากกว่า 70% เป็นเงินตราต่างประเทศ, ราคาน้ำมันอากาศยานที่ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากต้นปีราคาอยู่ที่ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และการด้อยค่าสินทรัพย์และเครื่องบิน ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในการขายเครื่องบินที่ปลดระวาง
นางอุษณีย์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมทบทวนแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อปรับปรุงให้มีแผนงานและการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะนำเสนอคณะกรรมการบริษัท และนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคมพิจารณาในลำดับต่อไป
"เมื่อวานนี้ ท่านรัฐมนตรีช่วยคมนาคมได้เชิญผู้บริหารการบินไทยไปหารือและฝากให้เราดูเรื่องแผนฟื้นฟู ท่านจะมาเยี่ยมเราเร็วๆนี้"นางอุษณีย์ กล่าว
ส่วนสายการบินไทยสมายล์ในปีนี้คงยังต้องเผชิญกับการขาดทุนอยู่ แต่ตัวเลขการขาดทุนจะลดลงจากปีก่อน และคาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรในไตรมาส 1/61 โดยได้เพิ่มการใช้เครื่องบินให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น (Utilization) จาก 8 ชม./ลำ/วัน มาที่ใกล้ 10 ชม./ลำ/วันในปัจจุบัน และปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มเป็น 12 ชม./ลำ/วัน
อนึ่ง THAI รายงานในงวด 9 เดือน ขาดทุน 3.88 พันล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการทั้งปี 59 มีกำไรสุทธิ 15.14 ล้านบาท