SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,714.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด (+0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 47,399.42 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงเช้าตามต่างประเทศ ก่อนเจอแรงขายทำกำไรภาคบ่ายกดดัน ขณะที่ไร้ปัจจัยใหม่หลังซึมซับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไปแล้ว แต่ยังได้แรงหนุนจาก LTF เข้าซื้อหุ้นใหญ่ในช่วงต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง และวอลุ่มตลาดไม่คึกคัก ดัชนียังยืนเหนือ 1,700 จุดทำให้ภาพยังดูดีเชิงจิตวิทยาและมีโอกาสขยับต่อ พรุ่งนี้ให้แนวต้าน 1,720 จุด และแนวรับ 1,700 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,714.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด (+0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 47,399.42 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,716.14 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,707.49 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 704 หลักทรัพย์ ลดลง 624 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 401 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา หลังจากช่วงเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นไปได้ตามตลาดต่างประเทศ ก่อนที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงบ่าย อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพคล่องในตลาดที่ยังมีอยู่ค่อนข้างมากทำให้ตลาดยังมีการหมุนเงินมาลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และอาจมีการขายหุ้นขนาดกลางและเล็กออกมาบ้าง
ด้านปัจจัยพื้นฐานจากต่างประเทศ ตลาดเริ่มซึมซับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้าไปแล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงมีแรงขายออกมาต่อเนื่องเพื่อปิด Position แต่เม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่เข้ามาซื้อหุ้นขนาดใหญ่ช่วยประคองตลาดได้
นอกจากนี้ การที่ดัชนียืนเหนือระดับ 1,700 จุดได้ทำให้ในเชิงจิตวิทยายังไม่น่ากังวลทิศทางตลาดมากนัก อย่างไรก็ตามการที่จะผ่าน 1,730 จุดที่เป็นระดับจุดสูงเดิมคงต้องมีปัจจัยบวกใหม่ทั้งจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในไตรมาส 4/60 ออกมาดีกว่าคาด หรือเม็ดเงิน fund flow ไหลเข้ามาในช่วงต้นปี 61
ส่วนระยะสั้นคาดว่านักลงทุนจะยังคงเล่นเทรดดิ้งในกรอบ เมื่อดัชนีขยับขึ้นได้เล็กน้อยก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตาม เม็ดเงิน LTF ยังเป็นปัจจัยหนุนช่วยประคองตลาด ประกอบกับ ต่างชาติน่าจะขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมามากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ คงเหลือแค่หุ้นขนาดกลางและเล็ก ซึ่งไม่น่าจะกดดันมากนัก ทำให้คาดว่าดัชนีมีโอกาสที่จะขยับขึ้นได้อีกในวันพรุ่งนี้ โดยให้แนวต้านบริเวณ 1,720 จุด และแนวรับที่ 1,700 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,090.53 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,991.00 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,581.34 ล้านบาท ปิดที่ 430.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,333.46 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,304.23 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท