นายบุญชัย เกีรยติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่าในปี 60 บลจ.ตั้งเป้าหมายเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เพิ่มขึ้นเป็น 2.7 แสนล้านบาท จากปี 60 ที่คาดว่าจะมี AUM ที่ 2.3 แสนล้านบาท โดยจะเพิ่มช่องทางด้วยการเปิดแอพพลิเคชั่นใหม่เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขายกองทุนเองได้ผ่านแอพฯ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารธนชาต คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 1/61 นอกจากนี้ จะตั้ง Line Official เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้าและประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ บลจ.ธนชาต มีแผนออกกองทุนหุ้น 3-4 กองทุน โดยจะลงทุนในหุ้นของไทย และหุ้นในตลาดโลก เพราะเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งของโลกและประเทศไทย ซึ่งเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ โดยยังมองว่าลงทุนหุ้นไทยยังได้รับผลตอบแทนที่ดี ปัจจัยการเมืองจะไม่นำมาประเมิน ขณะที่หุ้นโลก บลจ.ธนชาตมองภาพรวมในการลงทุนไม่แยกเป็นภูมิภาค
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างศึกษาออกกองทุนที่ลงทุนเกี่ยวกับ AI
ปัจจุบัน ช่องทางการขายหลักยังอยู่ที่ธนาคารธนชาต โดยในส่วนกองทุนรวม มีสัดส่วนสูงถึง 90% นอกนั้นเป็นช่องทางผ่านบล.ธนชาต ผู้ขายหน่วยลงทุนอิสระ เป็นต้น
นายโชติช่วง ธีรขจรโชติ ผู้ชวยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารกองทุน บลจ.ธนชาต คาดว่า ดัชนีหุ้นไทย (SET) มีโอกาสแตะระดับ 1,900 จุด มี P/E 16.5 เท่า คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 8% เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะเติบโตและดีต่อเนื่องไปในปี 62 มาจากการลงทุนภาครัฐ การกระตุ้นการบริโภค การลงทุนของภาคเอกชน และเศรษฐกิจโลกโดยรวมก็ยังเติบโตได้อย่าวโดดเด่นทำให้คาดว่าการค้าโลกจะขยายตัว 5% ในปีหน้า
สำหรับปีนี้ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกให้อัตราผลตอบแทนประมาณ 20% ตลาดสหรัฐ ก็มีผลตอบแทน 20% ส่วนตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) เติบโต 30% แต่ตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนราว 12% ส่วนปีหน้าคาดว่าผลตอบแทนในตลาดหุ้นโลกจะน้อยลง
อย่างไรก็ดี บลจ.ธนชาติ ให้กรอบความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในปีหน้า มีแนวรับที่ระดับ 1,650-1,680 จุด แต่คาดว่าขาลงจะน้อยกว่าขาขึ้น โดยความเสี่ยงขาลง จะมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพราะกลัวเงินเฟ้อ แต่ปัจจุบันเงินเฟ้อพื้นฐานยังไมขยายตัว และยังเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า เช่นเดียวกับปีนี้ที่เฟดปรับชึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง ทั้งนี้ แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มพาณิชย์ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นแบงก์ รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่มีการเติบโตอยู่เรื่อยๆ
"คิดว่าในช่วงครึ่งปีแรก หุ้นใหญ่จะเข้ามา และหุ้นใหญ่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลก ก็คาดว่าครึ่งปีแรกก็จะเห็นหุ้นไทยแตะทำนิวไฮ ส่วนในครึ่งปีหลังหุ้นไทยจะเติบโตจากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก จากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตกว่า 3-4% ส่วนหุ้นที่ให้เลี่ยงคือหุ้นกลุ่ม ICT เพราะมีการประมูลคลื่นความถี่ก็จะทำให้มีต้นทุนเพิ่มทำให้ความน่าสนใจกลุ่มนี้ลดลง...แรงขับเคลื่อนดัชนีหุ้นไทยยังมีเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศ" นายโชติช่วง กล่าว
นอกจากนี้ ยังมองว่าหุ้นในญี่ปุ่น และยุโรป ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้อีกในปีหน้า
นายบุญชัย กล่าวว่า ในปี 60 บลจ.ธนชาต ได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยม (Best Asset Management Company Awards) จากงาน SET Awards 2017 โดยที่ผ่านมาได้รับรางวัลกองทุนดีเด่น 5 ปีติดต่อกัน จุดนี้ชี้ให้เห็นถึงมาตรฐานดูแลเงินลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เทียบกับความเสี่ยง และคู่แข่ง ทั้งนี้ เป็นการวัดผลจากผลงาน 75% ของกองทุน