(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up รับแรงหนุนเม็ดเงิน LTF-RMF ซื้อต่อเนื่อง,ตัวเลขเศรษฐกิจไทยสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 22, 2017 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้จะแกว่งตัว Sideway ถึง Sideway up แม้ว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติจะเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงก่อนวันหยุดคริสต์มาส แต่ก็นับว่าเป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้นไทย หลังตัวเลขเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มที่ดี โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ประกาศตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย.ขยายตัว 13.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ นับเป็นสิ่งที่ยืนยันแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังดี

นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากเม็ดเงินของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่ยังไหลเข้ามาต่อเนื่อง และคาดความหวังการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (window dressing) ในสัปดาห์หน้าด้วย เพราะตามสถิติในอดีตช่วงไตรมาสนี้จะมีโอกาสเกิดมากถึง 67%

ส่วนปัจจัยต่างประเทศภาพรวมยังเป็นบวกอยู่ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปได้จนถึงวันที่ 19 ม.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ขณะที่ราคาน้ำมันแม้จะยังแกว่งตัวบวก-ลบบ้าง แต่ก็ยังนับว่าอยู่ในระดับที่สูง

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,734 จุด และ 1,728-1,730 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,740-1,742 จุด หากยืน 1,740 จุดได้ ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,745-1,750 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ธ.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,782.29 จุด เพิ่มขึ้น 55.64 จุด (+0.23%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,684.57 จุด เพิ่มขึ้น 5.32 จุด (+0.20%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,965.36 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด (+0.06%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 15.37 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.37 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 137.99 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.13 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.77 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.64 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ธ.ค.60) 1,736.91 จุด ลดลง 1.25 จุด (-0.07%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 557.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.61 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ธ.ค.60) ปิดที่ระดับ 58.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ธ.ค.60) ที่ 7.54 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.74 มองกรอบวันนี้ 32.70-32.80 แนวโน้มเคลื่อนไหวตามภูมิภาค
  • ตลท.คาดปี 61 มีไอพีโอใหม่เข้าเทรด 30 บริษัท เพิ่มมาร์เก็ตแคปไอพีโอได้อีก 280,000 ล้านบาท บล.เอเซีย พลัส ปรับเป้าดัชนีหุ้นไทยปี 61 อยู่ที่ 1,815 จุด ด้านตลาดหุ้นวานนี้ปิดลดลง 1 จุด
  • พาณิชย์เผยตัวเลข ส่งออกเดือนพ.ย.โต 13.4% ทุบสถิติขยายตัว สูงสุดรอบ 58 เดือน พบส่งออกสินค้าไฮเทค พุ่งรับเทรนด์โลก ขณะส่งออก 11 เดือนขยายตัว 10% มั่นใจสิ้นปีนี้โตแตะ 10% เตรียมจัดทัพกลุ่มสินค้าดาวรุ่ง 4.0 ปูพรมทูตพาณิชย์เปิดดีลหาพาร์ทเนอร์ เจาะตลาด "สมคิด"แจงแรงหนุนการเติบโตศก.ปีหน้า เอื้อปฏิรูปประเทศ
  • สนพ.คาดแนวโน้มการใช้พลังงานปีหน้า โต 2.1% ชี้ราคาน้ำมันดิบขึ้นลง ในกรอบ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล พร้อมคาดพีกขยับ 0.3% ที่ 3.42 หมื่นเมกะวัตต์ ด้านการใช้เบนซิน-ดีเซลขยายตัวต่อเนื่อง
  • "สมคิด" มั่นใจปีหน้าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวแบบร้อนแรงมากหลังจากในปัจจุบันดัชนีทะลุเกิน 1,700 จุดไปแล้ว เนื่องจากได้รับอานิสงส์ปีแห่งเทคออฟของประเทศไทยที่มีข่าวดีออกมาเรื่อย ๆ รวมถึงเศรษฐกิจไทยและโลกขยายตัวต่อเนื่องจึงเป็นโอกาสดีที่ภาคเอกชนมีแนวโน้มเพิ่มทุนโดยเฉพาะบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
  • "คลัง"หวัง"ลงทุนเอกชน" ดันเศรษฐกิจปีหน้าโตเกิน 4% ย้ำนโยบายการคลังยังหนุนการเติบโต สะท้อนผ่านงบขาดดุลกว่า 4.5 แสนล้าน พร้อมเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานหนุนเศรษฐกิจโตยั่งยืน ส่วนมาตรการช่วยคนจน "เฟส2" เข้าครม.ต้นปีหน้า ตั้งเป้าดึงคนจน 30% มีรายได้เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี เน้นฝึกอาชีพจ้างงานกว่า 100 รายการ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • WICE (เอเอสแอล) แนะ"ซื้อ" โดยมองประเด็นเศรษฐกิขโลกที่ยังเร่งตัวต่อเนื่องสอดคล้องกับภาคการส่งออกและการผลิตของจีนและสหรัฐที่ยังโดดเด่นต่อเนื่องไปในปี 61 ขณะที่ตัวเลขส่งออกไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัวราว 13% สูงสุดในรอบปีและขยายตัวเป็น 2 หลักต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 7 ขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญจะยังเป็นปัจจัยหนุนให้กับการเติบโตของบริษัท
นอกจากนี้ยังมี Catalyst บวกจากการรับรู้รายได้จากบริษัท SEL เต็มปี ซึ่งเป็นธุรกิจที่ GPM สูง ขณะที่ 4Q60 ยังเป็นช่วง High Season หนุนให้กำไรครึ่งปีหลังเติบโต ขณะที่ Valuation ราคาหุ้นยังมี Upside ที่ค่อนข้างมากกว่า 12% มูลค่าเหมาะสมเฉลี่ย Consensus ให้ไว้ที่ 5.70 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นจาก 5.57 บาท) ที่ PE 60 ปัจจุบันราวๆ 30 เท่า ขณะที่เงินปันผลเฉลี่ย 2.2%
  • IRPC (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเหมาะสมที่ 7.6 บาท หลังสามารถเดินหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าผลิตภัณฑ์ คาดว่า IRPC จะสามารถดำเนินการผลิตได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ เนื่องจากไม่มีการซ่อมบำรุงใหญ่ (major turnaround)แล้ว เพราะได้มีการซ่อมบำรุงใหญ่ไปแล้วใน 1Q60 คาด IRPC จะมีกำไรเติบโตขึ้น 28% ในปี 2561 จะได้รับผลดีจากผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม PP compound ซึ่งจะสามารถทำให้ขยายตลาดได้กว้างขึ้น นอกจากนี้ IRPC อยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการเพิ่มมูลค่าสายการผลิตอะโรเมติกส์ ซึ่งจะทราบผลใน 1Q61 ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ
  • PLANB (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมายที่ 7.10 บาท หลังมีแผนลงทุนในต่างประเทศเพิ่ม โดยจะซื้อหุ้นใน แซงจูรี่ บิลบอร์ด ประเทศมาเลเซีย จาก 30% เป็น 40% ใน 2Q61 ส่วนการลงทุนในฟิลิปปินส์ ลงนามด้านสัญญาใน JKJ Media ที่จะเข้าไปถือ 30.303% แล้ว แต่การลงทุนใน MJS Trading กำลังดำเนินการด้านสัญญา คาดว่าจะเสร็จใน 1Q61 อย่างไรก็ตาม รายได้จากต่างประเทศยังไม่มีนัยสำคัญเพราะดีลใหญ่ยังไม่มา ส่วนแนวโน้มกำไร 4Q60 คาดชะลอ Q-Q แต่ยังโตดี Y-Y ทำให้คาดกำไรทั้งปี +39% Y-Y และโตต่ออีก +20% Y-Y ในปีหน้า ขณะที่ประเด็นภาษีป้ายถ้าถูกเก็บเพิ่มคาดกระทบกำไรจำกัด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ