PTT เปิดแผนธุรกิจ 5 ปีขยายปั๊มเป็น 2,560 แห่ง-ร้านอเมซอนเพิ่มเท่าตัว หนุนกำไรนอนออยล์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 25, 2017 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจน้ำมันและการค้าระหว่างประเทศในช่วง 5 ปี (ปี 61-65) ปตท.วางเป้าหมายที่จะลงทุนตามแผนธุรกิจของกลุ่มตามกลยุทธ์ 3D ซึ่งประกอบด้วย Do now เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ,Decide now เร่งตัดสินใจการลงทุนเพื่อการเติบโต และ Design now ลงทุนใน New S-Curve เพื่อการเติบโตในระยะยาว

ทั้งนี้ PTT วางเป้าหมายจะมีสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 2,560 แห่งภายในปี 65 จากปัจจุบัน 1,640 แห่ง พร้อมรุกในส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) ที่ยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก โดยเฉพาะวางเป้าขยายร้านกาแฟ คาเฟ่อเมซอน อีกเท่าตัวเป็น 4,000 แห่งในปี 65 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากนอนออยล์ เพิ่มเป็น 30% ในปี 65 จาก 15% ในปีนี้

"ถ้าดูย้อนหลังการเติบโตการใช้น้ำมันอยู่ในอัตราที่ไม่สูงมาก ประมาณ 2-3% ต่อปี แต่ถ้าเราไปดูการค้าขาย retail โตกว่าเยอะ ประมาณ 5.9-6% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างกาแฟโต 15% ตลาดทางด้าน retail มากกว่าน้ำมัน ตอนนี้สัดส่วนกำไรขั้นต้นของ retail คิดเป็น 15% ปีหน้า จะเพิ่มเป็น 18% เราก็ตั้งเป้า 30% ภายในปี 65" นายอรรถพล กล่าว

นายอรรถพล กล่าวว่า ตามแผน 5 ปีใหม่ของธุรกิจน้ำมันและการค้าระหว่างประเทศ จะใช้เงินลงทุน 12,258 ล้านบาท โดยเป็นเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ในปี 61 จำนวน 12,169 ล้านบาท ซึ่งตามแผน 5 ปีใหม่จะแตกต่างจากแผน 5 ปีเดิม (ปี 60-64) เนื่องจากแผน 5 ปีใหม่จะเป็นการกำหนดตามโครงการที่มีความแน่นอนแล้วทำให้งบลงทุนในปี 61 จึงมีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามแผน 5 ปีก็จะมีการปรับปรุงทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มธุรกิจน้ำมันก็จะใช้เงินลงทุนราวปีละ 10,000 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ 3D คือ Do now จะเน้นการสร้างความแข็งแกร่งในส่วนที่มีความชำนาญ โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมัน และคาเฟ่ อเมซอน โดยวางเป้าหมายจะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันสุทธิ ในปี 61 เป็น 1,800 แห่ง จาก 1,640 แห่งในปัจจุบัน และเพิ่มเป็น 2,560 แห่งในปี 65 แบ่งเป็น สถานีบริการน้ำมันปกติ 2,200 แห่ง ,สถานีบริการน้ำมันขนาดเล็ก ที่เป็น compact model บริเวณถนนสายรอง ราว 340 แห่ง และสถานีบริการน้ำมัน เพื่อรองรับรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถบัส (truck & bus station) ประมาณ 20 แห่ง

โดยในส่วนของ truck & bus station เป็นการลงทุนเพื่อรองรับรถขนาดใหญ่ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายดีเซลให้ดีขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมารูปแบบสถานีบริการน้ำมันของปตท.ทำให้เป็นที่นิยมของรถขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้รถขนาดใหญ่ไม่เข้ามาใช้บริการ กระทบต่อยอดขายดีเซลบ้าง จึงต้องปรับกลยุทธ์สร้างสถานีบริการเพื่อเน้นรองรับรถขนาดใหญ่ ซึ่งน่าจะมีรูปแบบที่ชัดเจนในไตรมาส 1/61 และวางเป้าหมายจะมี 1-2 แห่งภายในสิ้นปี 61

ส่วนร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ตั้งเป้าหมายปี 61 จะเพิ่มเป็น 2,300 แห่ง จากราว 2,000 แห่งในปีนี้ และเพิ่มเป็น 4,000 แห่งในปี 65 ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายที่แข็งกร้าว (aggressive) มากขึ้น เนื่องจากยังเห็นช่องว่างทางการตลาด หลังจากที่การบริโภคกาแฟของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำราว 1 กิโลกรัม (กก.)/คน/ปี เมื่อเทียบกับกัมพูชา และลาว ที่อยู่ระดับ 1.2 และ 1.4 กก./คน/ปี ตามลำดับ รวมถึงยังจะเป็นการสร้างธุรกิจให้กับกลุ่มเอสเอ็มอีเพิ่มเติมด้วย ซึ่งในปีหน้าปตท.มีแผนจะสร้างร้านอเมซอน ที่ดำเนินการโดยคนพิการ หลังได้ร่วมกับมูลนิธิ ที่ดูแลคนหูหนวก และคนพิการ เพื่อร่วมดำเนินการ โดยตั้งเป้าหมายเปิด 1 แห่งในปีหน้า ซึ่งอาจจะเป็นพื้นที่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต หรือมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

ด้านกลยุทธ์ Decide now จะพยายามต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น สถานีบริการน้ำมันภายใต้แนวคิด Life Station ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกเภททุกวัย ก็จะต่อยอดเป็น PTT Living Community เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของชุมชน รวมถึงการขยายธุรกิจนอนอนออยล์ ด้วยการนำมาสเตอร์แฟรนไชส์ใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติมตั้งเป้าหมายจะมีทั้งสิ้น 12 แบรนด์ภายในปี 65 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3-4 แบรนด์ รวมถึงการขยายธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด (Budget Hotel) ภายในสถานีบริการน้ำมัน ที่มีเป้าหมาย 50 แห่งภายในปี 65

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดนั้น ขณะนี้ฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลวิเคราะห์เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการซึ่งมีแนวโน้มว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมในเดือนม.ค.61 เพื่อคัดเลือกพันธมิตรร่วมลงทุน 1 ราย จากรายชื่อ short list จำนวน 3 ราย ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสรุปรูปแบบการลงทุน ซึ่งมั่นใจว่าการก่อสร้างจะเริ่มได้ในปีหน้า ขนาดไม่เกิน 80 ห้อง/แห่ง

ด้านกลยุทธ์ Design now ลงทุนใน New S-Curve จะเป็นการพิจารณาลงทุนในเรื่องห่วงโซ่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV Value Chain) โดยตั้งเป้าหมายในปี 61 จะมีรูปแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV) หรือ EV Charger ในเชิงธุรกิจออกมา จากปัจจุบันที่อยู่ในรูปแบบของการทดลอง ที่คาดว่าในต้นปี 61 จะมีทั้งหมด 20 แห่ง

นายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับการขยายธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกในต่างประเทศนั้น ปตท.วางเป้าหมายจะมีสถานีบริการน้ำมันในต่างประเทศเพิ่มเป็น 295 แห่งในปี 61 จาก 225 แห่งในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 601 แห่งในปี 65 ,ร้านคาเฟ่ อเมซอน จะเพิ่มเป็น 208 แห่งในปี 61 จาก 141 แห่งในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 697 แห่งในปี 65 โดยมีเป้าหมายจะเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน อย่างน้อยอีก 2 ประเทศในปีหน้า และเพิ่มเป็น 14 ประเทศภายในปี 65 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5 ประเทศ

สำหรับเงินลงทุนต่างประเทศ จะอยู่ที่กว่า 400 ล้านบาทในแต่ละประเทศ ทั้งฟิลิปปินส์ ,ลาว และกัมพูชา ส่วนในเมียนมา วางเป้าหมายจะลงทุน ราว 835 ล้านบาท เพราะมีแผนจะสร้างคลังน้ำมันในเมียนมาด้วย ตลอดจนการเปิดสถานีบริการน้ำมัน และร้านคาเฟ่ อเมซอน เพิ่มเติมด้วย

ส่วนธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นในต่างประเทศ วางเป้าหมายจะขยายการขายเป็น 400 ล้านลิตรในปี 65 จากปัจจุบันที่มีการขาย 200 ล้านลิตร หลังล่าสุดได้เข้าไปตั้งบริษัทที่จีนเพื่อทำการตลาดมากขึ้นด้วย

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ปตท.ประเมินทิศทางราคาน้ำมันขายปลีกในปี 61 จะไม่หวือหวามากนัก และน่าจะมีราคาใกล้เคียงกับปีนี้ หลังมองว่าราคาน้ำมันดิบ ดูไบ น่าจะอยู่ที่กว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำมันในปี 61 จะเติบโตอย่างน้อยเท่ากับตลาดหรือมากกว่าตลาดเล็กน้อย โดยคาดว่าตลาดจะเติบโตราว 2-3% ขณะที่ปตท.จะรักษาส่วนแบ่งตลาดที่ 41%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ