SPALI ตั้งเป้าปี 61 รายได้ 2.6 หมื่นลบ.ยอดขาย 3.3 หมื่นลบ.มีแผนเปิด 35 โครงการใหม่รวม 4 หมื่นลบ.เน้นแนวราบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 15, 2018 10:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนการดำเนินงานปี 61 โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 35 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.12 หมื่นล้านบาท

โครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้จะเน้นโครงการแนวราบ 30 โครงการ คอนโดมิเนียม 5 โครงการ โดยในปีนี้จะมีการเปิดตัวโปรเจ็คต์ใหญ่ในรูปแบบมิกซ์ยูสเป็ฯครั้งแรกบนที่ดินสถานฑูตออสเตรเลีย บนถนนสาทร พร้อมกับขยายโครงการไปสู่ตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยมีโครงการจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงราย

ด้านเป้าหมายยอดขายในปีนี้อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 3.07 หมื่นล้านบาท กลยุทธ์การทำตลาดในปีหนี้จะสานต่อการใช้สื่อออนไลน์อย่างเข้มข้นผ่านช่องทาง Facebook, Line, Instragram และเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อสื่อสารถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และนำเสนอโปรโมชั่นใหม่ ๆ ตลอดทั้งปี เช่น โปรโมชั่นล่าสุด “ศุภาลัย แรง แซง ทุกโปร" ทำแคมเปญกับบ้านและคอนโดมิเนียม สร้างเสร็จะร้อมอยู่ 92 โครกงาร ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในราคาพิเศษสุด พร้อมเตรียมเปิดการขายสินค้าคอนโดมิเนียมในประเทศไทยออกสู่ตลาดโลกมากขึ้นด้วย

ด้านรายได้ในปี 61 วางเป้าหมายที่ 2.6 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้จะมีโครงการคอนโดฯ สร้างเสร็จทยอยโอนจำนวน 8 โครงการ โดยมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่จะทยอยโอนในปีนี้กว่า 2 หมื่นล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมด ณ สิ้นปี 60 ที่ 3.98 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ยังการตั้งงบซื้อที่ดินในปี 61 อยู่ที่ 9 พันล้านบาท ขณะเดียวกันยังมองหาโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศ เช่น การร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนไปแล้ว 6 โครงการ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศกลุ่มอาเซียนอื่น ๆ

ด้านภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ไนปี 61 คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีก่อน จากปัจจัยการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัว ประกอบกับ การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีการลงทุนต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและเริ่มกลับมาสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

สำหรับตลาดในกลุ่มระดับบนมองว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่นำมาช่วยในกระบวนการผลิต หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการอาศัยในยุคตลาด 4.0


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ