THCOM คาดปีนี้อัตราใช้ช่องสัญญาณไอพีสตาร์เพิ่มเป็น 30% จาก 26% ปีก่อน ลุ้นได้ลูกค้ารายใหม่ในจีน-อินโดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 15, 2018 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า บมจ.ไทยคม (THCOM) คาดในปี 61 ดาวเทียมบรอดแบนด์ไทยคม 4 หรือ ไอพีสตาร์ จะมีอัตราการใช้งานแบนด์วิธเพิ่มเป็น 30% จากสิ้นปีก่อนมีอัตราที่ 26% ขณะที่ดาวเทียมที่รองรับบรอดคาสท์ (ไทยคม 5,6,7,8) จะมีอัตราการเช่าใช้สัญญาณทรงตัวที่ระดับ 60% เพราะมียอดยกเลิกทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับดาวเทียมไอพีสตาร์ ในส่วนประเทศจีน บริษัทได้ยกเลิกสัญญาแบบ Exclusive กับ บริษัท ซีเนอร์โทน คอมมิวนิเคชั่น คอร์ปอเรชั่น ที่เช่าแบบเหมาทั้ง 24% มาเหลือเช่าช่องสัญญาณแทนประมาณ 3% ทำให้บริษัทสามารถนำส่วน Capacity ในจีนมาจำหน่ายเองโดยได้เจรจาขายกับบริษัทในจีนหลายราย และคาดว่าในครึ่งหลังปีนี้จะมีอัตราการใช้งานแบนด์วิธราว 5%

นอกจากนี้ ได้หาลูกค้าใหม่เข้ามาแทนรายเดิมที่ยกเลิกสัญญาไป โดยได้ลูกค้าในอินโดนีเซียที่เช่าแบบเหมา 6%ของไอพีสตาร์ และ คาดว่าจะใกล้ได้ข้อสรุปการขายช่องสัญญาณในฟิลิปปินส์ 4% ขณะที่ดาวเทียมไทยคม 6 จากที่ลูกค้าในประเทศเป็นการยกเลิกของกลุ่มธุรกิจทีวีดิจิทัล ได้หาลูกค้าในต่างประเทศเข้ามาทดแทน ได้แก่ แอฟริกา อาเซียน ฟิลิปปินส์

นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM กล่าวว่า บริษัทเตรียมหนังสือต่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ภายในปีนี้เพื่อขอยืดอายุการใช้งานของดาวเทียมไทยคม 4 , ไทยคม 5 และ ไทยคม 6 ออกไปอย่างน้อย 5 ปี ก่อนที่จะหมดอายุส้ญญาสัมปทานหมดในปี 63 เพราะสินทรัพย์ยังอยู่ในนสภาพดี ซึ่งจะทำให้ต้นทุนต่ำลง ขณะเดียวกันก็จะเป็นการรักษาวงโคจรด้วย นอกจากนี้ การสร้างดาวเทียมดวงใหม่ยากขึ้นเพราะปัจจุบันมีจำนวนดาวเทียมล้นตลาด

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทต่างประเทศออกแบบดาวเทียมหลังเพื่อจะใช้งานได้ต่อเนื่องหลังหมดอายุสัญญาสัมปทาน และปรับเพิ่มเทคโนโลยีให้ดาวเทียม โดยเงินลงทุนคาดว่าจะใช้ไม่มาก ซึ่งมูลค่าทางบัญชีของดาวเทียมไทยคม 4 อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท และดาวเทียมไทยคม 6 อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท

นายไพบูลย์ กล่าวว่า บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 0.49 เท่า ณ สิ้นปี 60 และมีเงินสด 1.96 พันล้านบาท ส่วนการขายหุ้น บมจ.ซีเอส ล็อกอินโฟ (CSL) 250 ล้านหุ้นได้กำไร 1,885 ล้านบาท ซึ่งได้นำไปจ่ายเงินปันผลพิเศษในอัตราหุ้นละ 1.36 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ