BM ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-20% รับโรงงาน 5 เริ่มผลิต Q3/61 เข้าถือหุ้นธุรกิจรับเหมาฯวางระบบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 2, 2018 11:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า ในปี 61 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตอยู่ที่ระดับ 10-20% จากยอดคำสั่งซื้อสินค้าประเภทราง และท่อร้อยสายไฟที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการต่างๆ รวมถึงคำสั่งผลิตตู้ไฟฟ้า และตู้สื่อสารรวมถึง การรับงานผลิตแม่พิมพ์สำหรับโมเดลรถเกี่ยวข้าว และโครงรถตัดอ้อย และคำสั่งผลิตชิ้นส่วนโลหะสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรในปริมาณที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการของภาคเกษตรกรรม

และที่สำคัญการเข้ามาถือหุ้นบริษัทฯของ NITTO KOGYO CORPORATION หรือ "NITTO" ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์เชิงกลจากประเทศญี่ปุ่น จะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ รวมถึงเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มเติมได้อีกด้วย

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าขยายโรงงานหลังที่ 5 ตามแผน โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการระดมทุน IPO ในปี 59 โดยบริษัทจะดำเนินการสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อติดตั้งภายในไตรมาส 1/61 และติดตั้งไลน์พ่นสีใหม่ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

"เราคาดว่ารายได้ในปี 61 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปริมาณงานในกลุ่มของผู้รับเหมาที่เพิ่มสูงขึ้น ตามโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ด้านโครงการการก่อสร้างโรงงานใหม่หลังที่ 5 จะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มดำเนินการผลิตได้ตามกำหนดที่ได้วางไว้ ส่วนการเข้าลงทุนใน MECT เรามองว่าเป็นการลงทุนที่สมเหตุสมผล ซึ่ง MECT เป็นบริษัทที่มีรายได้ และกำไรอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงยังสามารถต่อยอดธุรกิจหลักของเรา และเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้อีกด้วย" นายธีรวัต กล่าว

ขณะที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เอ็ม อี ซี ที จำกัด (MECT) ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า-สื่อสาร ระบบปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย จำนวน 391,250 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วของ MECT ภายหลังการทำรายการ ในราคาซื้อขายหุ้นละ 388.86 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าลงทุน 152,141,068 บาท

MECT ถือว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่งด้านงานระบบ มีวิศวกร และทีมงานที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ในการให้คำปรึกษาและให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันตามกลุ่มอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ งานระบบไฟฟ้า-สื่อสาร ระบบปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย เป็นระบบที่สำคัญสำหรับทุกภาคอุตสาหกรรม ทุกธุรกิจที่ตั้งใหม่ต้องมีการวางระบบดังกล่าว ทำให้ธุรกิจของ MECT มีความยั่งยืนต่อเนื่อง

โดยหลังจากการเข้าซื้อหุ้นของ MECT บริษัทจะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายฐานลูกค้าของ MECT ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับเหมาที่มีความต้องการใช้สินค้าที่บริษัทผลิตและจำหน่าย เช่น ราง และท่อร้อยสายไฟฟ้า ตู้โลหะ เป็นต้น และยังเป็นการขยายธุรกิจไปยังประเภทธุรกิจใกล้เคียง เพื่อเพิ่มรายได้ของบริษัทฯ รวมถึงการได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากกำไรสุทธิของ MECT อีกด้วย

ส่วนผลประกอบการปี 60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 44.30 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการอยู่ที่ 841.46 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมาได้รับคำสั่งซื้อสินค้ารางและท่อร้อยสายไฟอย่างต่อเนื่องจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการต่างๆ เช่น งานก่อสร้างห้างสรรพสินค้า งานก่อสร้างอาคารคอนโดมีเนียม รวมถึงการได้รับคำสั่งผลิตตู้สัญญาณอินเตอร์เน็ตสำหรับหมู่บ้าน รวมทั้งมีรายได้เพิ่มจากการผลิตแม่พิมพ์สำหรับโมเดลรถเกี่ยวข้าว และโครงรถตัดอ้อย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ