(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นกรอบจำกัดหลังดีดแรงเมื่อวานหวังต่างชาติซื้อหนุน,จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 13, 2018 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะยังปรับตัวขึ้นได้ แต่อยู่ในกรอบจำกัดหลังจากที่ดัชนีดีดตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ ขณะที่ตลาดยังไม่มีประเด็นกดดันเข้ามา และนักลงทุนต่างชาติก็กลับเข้ามาซื้อสุทธิบ้าง หลังภาพการเมืองในประเทศมีความชัดเจนตามโรดแมพ แม้ช่วงที่ผ่านมาการลงทุนของต่างชาติจะไม่ได้มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะต่างชาติมีทิศทางขายมาตลอด แต่ก็คาดหวังว่าเมื่อการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้นก็จะเห็นแรงซื้อของต่างชาติกลับเข้ามา ซึ่งจะช่วยพยุงตลาดได้บ้าง

สำหรับเมื่อวานนี้ตลาดได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนสถาบันในประเทศที่เข้ามาซื้อสุทธิจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ภาพรวมตลาดยังเลือกลงทุนเป็นรายตัว เช่น SCC และ PTT ทำให้การลงทุนในระยะต่อไปยังต้องจับตาดูด้วยว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ และจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้ตลาดอยู่ในช่วงขึ้นเครื่องหมาย XD ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จ่ายปันผล ก็อาจจะกระทบต่อดัชนีด้วย

ด้านปัจจัยต่างประเทศที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงเมื่อวานนี้ แต่ตลาดหุ้นภูมิภาคที่เปิดทำการเช้านี้ก็มีทั้งบวกและลบในกรอบแคบ โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมายังมีแนวโน้มที่ดี ทำให้ภาพรวมยังเป็นบวกอยู่ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของสหรัฐฯที่จะออกมาในคืนนี้ เพื่อจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่จะมีการประชุมในวันที่ 20-21 มี.ค.ซึ่งตลาดยังรอดูด้วยว่าเฟดจะส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยกี่ครั้งในปีนี้

ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ คาดว่าจะไม่ได้กระทบต่อภาพรวมตลาดมากนัก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังยืนเหนือระดับ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

พร้อมให้แนวรับที่ 1,793 จุด และแนวต้านที่ 1,804 และ 1,808 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,178.61 จุด ลดลง 157.13 จุด(-0.62%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,783.02 จุด ลดลง 3.55 (-0.13%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,588.32 จุด เพิ่มขึ้น 27.51 จุด (+0.36%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 81.58 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.58 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 24.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 20.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.07 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.66 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 6.14 จุด,ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 3.23 จุด,ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.59 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 มี.ค.61) 1,800.32 จุด เพิ่มขึ่น 24.95 จุด (+1.41%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 616.58 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 มี.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 61.36
ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 68 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 มี.ค.61) ที่ 7.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.26/30 แนวโน้มแกว่งแคบรอปัจจัยใหม่ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
  • โพลล์ FETCO เผยความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติพุ่งสวนตลาด เหตุกำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโต ด้านสมาคมนักวิเคราะห์ ชี้ความเชื่อมั่นคนละส่วนกับการลงทุน เหตุราคาหุ้นยังแพง หวังการปรับฐานช่วยสร้างความน่าสนใจ ให้เป้าหมายดัชนีสิ้นปี 1,871 จุด รับอานิสงส์ผลประกอบการบจ.และเศรษฐกิจไทยหนุน ขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้าหดตัวแม้จะอยู่ในเกณฑ์"ร้อนแรง"เหตุนักลงทุนยังกังวลการเมืองในประเทศ-ดอกเบี้ยเฟด
  • "พาณิชย์" เผยส่งออกข้าวไทย 2 เดือน ทำได้ 2 ล้านตัน เพิ่ม 4.17% มูลค่า 999 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 22.13% คาดดีต่อเนื่อง หลังคำสั่งซื้อเข้ามาตลอด และยังมีแผนจัดคณะผู้แทน ภาครัฐและเอกชนออกไปขยายตลาด มั่นใจเป้า 9.5 ล้านตันทำได้แน่ เตรียมชงนบข. อนุมัติขายข้าวที่ไม่ใช่คนบริโภค 2 ล้านตัน 29 มี.ค.นี้ ก่อนเปิดระบายทันที ตั้งเป้า ก.ย.เคลียร์ได้หมด ระบุยังได้ตั้งเป้าค้าชายแดนปี 61 มูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่ม 15%
  • ส.อ.ท.ชี้ลงทุนเอกชนคึกคักรับตัวเลขส่งออกดี ยังห่วงเอสเอ็มอีในประเทศยอดขายนิ่ง ลุ้นไตรมาส 3 ฟื้น ชี้อีอีซีกระตุ้นความเชื่อมั่นแต่ต้องรอโครงการสร้างพื้นฐานสำเร็จก่อน กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดตัวเลข ร.ง.4 ขยายโรงงานมาแรง มูลค่าพุ่ง 22.79%
  • ประชุม ครม.วันนี้ จะมีการเสนอแนวทางการกำกับดูแลการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล และการกำกับดูแลเรื่องการระดมทุนด้วยเงินดิจิตอล (ไอซีโอ) ให้จัดทำเป็นกฎหมายใหม่ ร่าง พ.ร.ก.การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล เพื่อต้องการให้มีกฎระเบียบออกมากำกับดูแลเรื่องเงินดิจิตอลอย่างเร่งด่วน โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ขณะ คลังเสนอแก้ไขประมวลรัษฎากรเก็บภาษีจากการลงทุนในเงินดิจิทัล จากส่วนต่างกำไร 10% ขณะวงการเงินดิจิทัลรอลุ้นเกณฑ์คุมไอซีโอเชื่อเน้นดูแลรายย่อย จำกัดวงเงิน ระดมทุน ย้ำมี 4-5 บริษัทชะลอขายไอซีโอ ขอรอดูเกณฑ์ พร้อมขีดเส้นก่อนสิ้นเดือนยังไม่ชัด เดินหน้าระดมทุนต่อ
  • ผู้นำเข้าเหล็กของสหรัฐชะลอเจรจานำเข้าเหล็กจากไทย เพื่อรอดูผลกระทบจากนโยบายการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐ และรอดูผลเจรจาของไทย ด้านกระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนเจรจา 3 ขั้น ดึงเอกชนมีส่วนร่วมเจรจา
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนายแจ็ก พี. วิลเลี่ยมส์ รองประธานอาวุโส บริษัท เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น จากสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าพบ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า เอ็กซอนฯ มีแผนขยายการลงทุนที่ประเทศไทย โดยเตรียมจัดตั้งโรงงานแครกเกอร์ขนาดใหญ่ ที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี เพื่อผลิตวัตถุดิบที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก วงเงินลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SENA (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 5 บาท มองเชิงบวกจาก Opportunity Day นำเสนอแผนชิงรุกมากขึ้นในช่วง 3 ปีตั้งเป้ายอด Presales โตเฉลี่ยถึง 43% ต่อปี โดยในปี 61 มีแผนเปิดตัว 18 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 158% YoY คาดยอด Presales ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% YoY ด้านกำไรสุทธิเพิ่มคาดการณ์ขึ้นจากเดิม 6% เป็น 810 ล้านบาท กลับมาทำสถิติสูงสุดใหม่ เพิ่มขึ้น 9% YoY จากแผนเปิดโครงการใหม่ที่จะรับรู้ปีนี้เพิ่มขึ้น โดยปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปีนี้ขึ้นจากเดิม 10% เป็นที่ 5.2 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 60 มี Backlog รอรับรู้ปีนี้แล้ว 2.48 พันล้านบาท
  • SAPPE (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ" แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 29 บาท จาก 38 บาท โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10%-15% Y-Y ตามตลาดส่งออกที่มีสัดส่วน 64% ของรายได้รวม ส่วนในประเทศตั้งเป้าโตเพียง 5% เพราะกำลังซื้อยังฟื้นช้า มีแผนออกสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่มเยลลี่ และ Healthy Snack คาดว่า SAPPE จะใช้สิทธิซื้อหุ้น All Coco เพิ่มจาก 40% เป็น 51% เพราะแนวโน้มธุรกิจดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม กำไรปี 60 น่าผิดหวังทำให้ปรับลดกำไรสุทธิปีนี้ลง 13% เหลือ 438 ล้านบาท (+9% Y-Y) หากไม่รวม fx คาดกำไรปกติ +15% Y-Y
  • EA (ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 70 บาท มองแรงเทขายทำให้ราคาปัจจุบันมี downside ค่อนข้างจำกัด ซึ่งสะท้อนเพียงธุรกิจโรงไฟฟ้าและไบโอดีเซล ส่วนการที่ผลดำเนินงาน Q4/60 ที่ต่ำกว่าคาดเป็นไตรมาสแรกหลังจากที่สูงกว่าคาดมา 16 ไตรมาสติดกันนั้น มองว่าเป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอสำหรับราคาที่หดตัวลงมาก อย่างไรก็ตามได้ปรับลดประมาณการ EPS FY61-63F ลง 8.5-25.3% เพื่อสะท้อนกำลังผลิตที่ลดลงในพลังงานลม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ