ADB วางเป้าดันรายได้แตะ 2 พันลบ.ภายในปี 62 หลังดีมานด์โลกฟื้น-พัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 28, 2018 16:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.พรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.แอ็พพลาย ดีบี (ADB) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโตแตะ 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 5-10% จากปีก่อนทำได้ 1.38 พันล้านบาท หลังจากมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ประเภทเม็ดพลาสติกพีวีซีในตลาดโลกปรับตัวดีขึ้น รวมถึงบริษัทฯ ยังมีการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งน่าจะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 คาดว่าน่าจะดีกว่าไตรมาส 1/60 จะเห็นได้จากในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.61) บริษัทได้รับคำสั่งซื้อเม็ดพลาสติกพีวีซีเข้ามาเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการใช้สินค้า ทั้งจากงานโครงการภาครัฐ และกลุ่มลูกค้าที่ว่าจ้างผลิตสินค้าภายใต้รูปแบบ OEM ส่งผลดีต่ออัตราการใช้กำลังการผลิตที่เต็มทุกสายการผลิต หรือมีกำลังการผลิตราว 1,800 ตัน/เดือน

บริษัทยังมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรที่มีอยู่เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi Auto) ซึ่งจะเพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการผลิต เพื่อขยายกำลังการผลิตติดตั้งเม็ดพลาสติกพีวีซีเพิ่มขึ้นอีก 200 ตันต่อเดือน ส่งผลทำให้กำลังการผลิตโดยภาพรวมน่าจะปรับตัวขึ้นเป็นประมาณ 2,000 ตันต่อเดือน เพื่อรองรับความต้องการใช้เม็ดพลาสติกพีวีซีทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและยาแนว ช่วงที่ผ่านมาภาพของการส่งออกมีการชะลอตัวลงหลังจากมีการปรับขึ้นราคาขาย รวมถึงมีการแข่งขันด้านราคาสูงจากค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าการส่งออกน่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นได้ในไตรมาส 2/61 และปัจจุบันบริษัทยังมีสัดส่วนยอดขายจากในประเทศมากกว่าต่างประเทศ

น.ส.พรพิวรรณ กล่าวว่า ความคืบหน้าของการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ หรือเม็ดพลาสติกพีวีซีเพื่ออุตสาหกรรมการแพทย์ โดยในส่วนของการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ลูกค้าที่เป็นพันธมิตรของบริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มการผลิตและจำหน่ายได้ในไตรมาส 2/61 และส่วนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั่วไปคาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 3/61 อย่างไรก็ตามการดำเนินงานในส่วนดังกล่าวยังไม่นับรวมกับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 61 ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนอย่างมีนัยสำคัญได้ในปีหน้าเป็นต้นไป

ด้านงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ที่ 220-230 ล้านบาท โดยใช้ลงทุนก่อสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรในโรงงานแห่งที่ 4 จำนวน 200 ล้านบาท โดยตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะต่อยอดการผลิตสินค้ากลุ่มกาวและยาแนว ได้แก่ ซิลิโคนยาแนว โมดิฟายซิลิโคนพอลิเมอร์สำหรับยาแนว และเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเดิม ได้แก่ อะคริลิกยาแนว และกาวแทนตะปู คาดว่าจะเริ่มการผลิตสินค้าในไตรมาส 4/61 และจะเริ่มจำหน่ายสินค้าเพื่อรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งจะสามารถดำเนินการผลิตและจำหน่ายเต็มกำลังการผลิตได้ในปี 63 และส่วนที่เหลืออีกราว 20-30 ล้านบาทจะใช้ในการปรับปรุงโรงงานเก่าทั้ง 3 แห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ