(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ 0.5-0.9% ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่เปิดมาหลังหยุดในวัน Good Friday แล้วปรับตัวลงราว 2-3% หลัก ๆ มาจากที่จีนได้ตั้งกำแพงภาษีเมื่อวานนี้ และยังมีแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องด้วย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวลง 3%

สำหรับบ้านเรายังต้องติดตามเรื่องสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาจจะยื่นร่างกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เพราะอาจทำให้โรดแมพเลือกตั้งให้เลื่อนออกไปได้ อีกทั้งตลาดฯอาจได้รับแรงกดดันจากกลุ่มแบงก์ จากที่บรรดานักวิเคราะห์เริ่มที่จะปรับลดประมาณการกำไรของกลุ่มแบงก์ลง อันเป็นผลจากการยกเลิกค่าธรรมเนียม และยังมีการปรับลดราคาเป้าหมายของกลุ่มแบงก์ลงด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,770-1,775 จุด ส่วนแนวต้าน 1,790 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,644.19 จุด ร่วงลง 458.92 จุด (-1.90%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,581.88 จุด ลดลง 58.99 จุด (-2.23%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,870.12 จุด ลดลง 193.33 จุด (-2.74%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 273.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 33.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 165.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 50.73 จุด,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 21.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 25.45 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.85 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 เม.ย.61) 1,782.28 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด(+0.34%)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,097.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 เม.ย.61
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 63.01

ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.93 ดอลลาร์ หรือ 3%

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 เม.ย.61) ที่ 6.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 31.17/24 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐปลายสัปดาห์นี้
กสทช.แจงข้อมูล "วิษณุ" เหตุช่วยเอไอเอส-ทรู กรณียืดจ่ายค่างวดคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ออกไป 5 ปี รัฐได้ดอกเบี้ย หนุนสองรายร่วมประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ดันรายได้เข้ารัฐได้กว่า 2.9 แสนล้าน ระบุเตรียมชงร่างหลักเกณฑ์การประมูล 4จีคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์กลางปีนี้ให้บอร์ดรับทราบ 11 เม.ย. พร้อมปิดประตูไม่รับ "แจส" วงใน หวั่นกสทช.ทำรัฐเสียค่าโง่เอกชน ยอมให้ผ่อนจ่ายไลเซ่นส์คลื่น หากสองรายไม่ร่วมประมูล 1800 เมกะเฮิร์ตซ์
"อภิศักดิ์" สั่งแบงก์รัฐตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ถึงสิ้นปี หวังช่วยเศรษฐกิจกระจายตัวลงสู่ฐานรากเร็วขึ้น ขณะ "ออมสิน-ธอส." ขานรับนโยบาย "ชาติชาย" ระบุยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ย้ำนโยบายแบงก์รัฐต้องช่วยผู้มีรายได้น้อย เผยสภาพคล่องปัจจุบันยังล้น ด้าน "ฉัตรชัย" ลั่นอย่างน้อยครึ่งแรกปีนี้ดอกเบี้ยยังไม่ขยับ โชว์ไตรมาสแรกสินเชื่อใหม่โต 76%
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน มี.ค. 2561 เท่ากับ 101.12 สูงขึ้น 0.79% เทียบกับเดือน มี.ค. 2560 ซึ่งเป็นการสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 นับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2560 ที่เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.17% แต่เมื่อเทียบเดือนที่ผ่านมาปีเดียวกันเงินเฟ้อลดลง 0.09% โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากเดือน ก.พ. 2561 ที่เงินเฟ้อลดลง 0.23% ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) 2561 เงินเฟ้อสูงขึ้น 0.64%
ตลาดหลักทรัพย์เผยเอ็นวีดีอาร์ถือครองหุ้นไทยเพิ่ม พบมี 22 บริษัท ถือครองเกิน 10% ขณะที่บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุต่างชาติแอบเก็บหุ้นเพิ่มในช่วง 14 เดือน สวนทางแรงขายสุทธิ เชื่อลงทุนระยะยาว

*หุ้นเด่นวันนี้

IT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.90 บาท ปัจจัยหนุนระยะสั้นอยู่ที่แนวโน้มกำไร Q1/61 ที่คาดโตสูง 145% Y-Y อยู่ที่ 15 ล้านบาท ขณะที่ ปัจจัยหนุนระยะกลาง-ยาวอยู่ที่การปรับกลยุทธ์การแข่งขัน โดยมองว่า Upside ของ IT เป็นไปได้ทั้งการจับมือกับ Mobile Operator, การกลับมาขยายสาขาหรือรุกตลาดออนไลน์, และการสร้างจุดแข็งโดยเป็นผู้นำตลาด Gamming โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ +33% Y-Y อยู่ที่ 84 ล้านบาท และปีหน้า +24% Y-Y อยู่ที่ 105 ล้านบาท PE2561 ต่ำเพียง 10 เท่า ทั้งที่โตสูงและบริหาร Cash Cycle ได้ดีสุดในอุตสาหกรรม อีกทั้ง คาดปันผลปี 2561-2562 จะสูงถึง 6-8% ต่อปีด้วย
MINT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 47 บาท ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงจากข่าวเข้าซื้อกิจการในสเปนมากเกินไป ส่งผลให้ Valuation ในปัจจุบันปรับตัวลงและถูกกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มโดย มี P/E ซื้อขายเฉลี่ยเพียง 28 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของ Sector ที่ 30-35 เท่า แนวโน้มของกำไรยังเติบโตโดดเด่นประมาณ 18-21% ต่อปีไปอีก 3 ปีข้างหน้า จากแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวที่ดีขึ้นและธุรกิจร้านอาหารปรับตัวดีขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ
SPA (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 22.6 บาท ปี 61 คาดกำไรโต 49.0%YoY จากแผนขยายสาขาอีก 10 แห่งในประเทศ (จากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 41 แห่ง) นอกจากนี้มีแผนขยายสาขาในต่างประเทศด้วยรูปแบบการทำแฟรนไชส์โดยปีนี้มีแผนขยายเพิ่มอีก3 สาขาในจีน (จากเดิมมี 1 สาขา) และจะขยายเพิ่มอีก 3 สาขาในกัมพูชา

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--