(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตลาดหุ้นทั่วโลก บรรยากาศดีขึ้นหลัง Bond Yield สหรัฐฯลงมาต่ำกว่า 3%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 27, 2018 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้าราว 0.1-0.6% ตามดาวโจนส์ที่ปรับขึ้นไป รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่เฟซบุ๊กได้ประกาศผลกำไรออกมาดีกว่าคาด

นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯก็ได้ปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 3% ด้วย ทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ส่วนผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ตามคาด คงอัตราดอกเบี้ย และยังคงการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ไปจนถึงเดือนก.ย.61

อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต่อไป ซึ่งตลาดฯก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และยังไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน รวมถึงให้ติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 1/61 ของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันนี้ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,770-1,772 จุด ส่วนแนวต้าน 1,785-1,790 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,322.34 จุด พุ่งขึ้น 238.51 จุด (+0.99%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,666.94 จุด เพิ่มขึ้น 27.54 จุด (+1.04%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,118.68 จุด เพิ่มขึ้น 114.94 จุด (+1.64%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 147.05 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 293.15 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 57.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 22.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.06 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 11.97 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 เม.ย.61) 1,773.20 จุด ลดลง 6.32 จุด (-0.36%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 483.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 เม.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 68.19 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 เม.ย.61) ที่ 6.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.63 อ่อนค่าหลัง ECB ส่งสัญญาณเรื่องมาตรการกระตุ้นทางการเงิน มองกรอบ 31.55-31.70
  • กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติปลื้ม ยักษ์ใหญ่ 5 ราย สนประมูลแหล่งพลังงานเอราวัณ และบงกช ภายใต้ระบบ PSC แล้วทั้ง "มูบาดาลา-เชฟรอน-มิตซุย-โททาล-ปตท.สผ."
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ค้าน้ำมันหารือถึงสภาวการณ์แข่งขันในธุรกิจขายปลีกน้ำมัน โดยจะขอความร่วมมือห้ามแจ้งข่าวการปรับเพิ่มหรือลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงล่วงหน้า หรือกรณีผู้ค้าน้ำมันตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปปรับราคาในอัตราที่เท่ากันในเวลาเดียวกัน ขณะที่เผยยอดใช้ดีเซลหน้าปั๊ม มี.ค.พุ่งสุดเป็นประวัติการณ์ รับเศรษฐกิจโต
  • กระทรวงการคลังเผยรายได้รัฐบาลครึ่งแรกปีงบประมาณ 2561 จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการเล็กน้อยร้อยละ 3.7 ผลจากหน่วยงานอื่นและรัฐวิสาหกิจส่งรายได้มากกว่าเป้า ขณะ 3 กรมหลักต่างๆ ต่างจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปข้อมูลสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่คาด โดยภาพรวมสินเชื่อสุทธิเดือน มี.ค.61 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.9 หมื่นล้านบาท เป็น 11.07 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.17% MoM ซึ่งแรงส่งสินเชื่อในเดือนนี้ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน
  • ตลท.เปิดผลสำรวจ 'ซีอีโอ' บริษัทจดทะเบียน มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกโตดีผลจากนโยบายการคลังและการจับจ่ายของภาครัฐ แต่ยังห่วงค่าเงินบาทที่ยังผันผวน ค่าแรงขั้นต่ำ หวั่นการเมืองอาจจะมีอุปสรรคทำให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้ง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPF (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 28 บาท ได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า คาดหวังผลกำไรกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ Q2/61 จากราคาขายสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวโดยเฉพาะราคาหมูในไทยและเวียดนาม (ราคาหมูไทยปรับขึ้น 25% จากเฉลี่ย 48 บาท/กก.เป็น 60 บาท/กก., เวียดนามราคาปรับขึ้นจากเฉลี่ย 30,000 ดอง/กก. ในช่วงต้นปีเป็น 39,000 ดอง/กก.เพิ่มขึ้น 30%)
  • PTTGC (ไอร่า) เป้า 120 บาท คาดผลการดำเนินงานในช่วง Q1/61 ยังคงมีกำไรแข็งแกร่ง ปัจจัยหลักมาจากผลกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้งจากธุรกิจการกลั่น ตามค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นจาก Q1/60 และธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างที่สูงขึ้น พร้อมคาดกำไรจากสต็อกน้ำมันเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น พร้อมคาดงบฯปี 61 จะเติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคา HDPE ตามราคาน้ำมันดิบ โดยเมื่อราคา HDPE อยู่ในระดับสูง จะส่งผลให้ margin ของผลิตภัณฑ์ HDPE สูงตามไปด้วย เนื่องจากการผลิตของ PTTGC เป็น Gas based ซึ่งจะได้เปรียบผู้ผลิตในสาย Naphtha based ในขณะที่ผลการดำเนินงานของ PTTGC มีกำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ประมาณ 66% พร้อมคาดราคา HDPE ในปี 61 จะยังคงยืนเหนือ 1,300 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
  • BGRIM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 32 บาท คาดกำไรปกติ Q1/61 สดใส โต 55.7% Q-Q, 23.6% Y-Y อยู่ที่ 520 ล้านบาท จากโรงไฟฟ้าใหม่เริ่ม COD กลางไตรมาส ค่าใช้จ่าย SG&A และค่าใช้จ่ายการเงินลดลง Q-Q ตามฤดูกาล พร้อมคาดกำไรทั้งปีโตสูง 40% Y-Y อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท และโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 22% ในอีก 5 ปีข้างหน้า จากแผนขยายโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยมี Upside จากการลงทุนในโซลาร์เวียดนาม ที่คาดมีความชัดเจนใน Q2/61 นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ