บล.โกลเบล็ก ปรับ Business Model รองรับการแข่งขันในยุคดิจิทัล-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เล็งดันมาร์เก็ตแชร์แตะ 2%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 28, 2018 09:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBX เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าปี 61 มาร์เก็ตแชร์จะขึ้นแตะระดับ 2% จากปีก่อนที่ 1.5-1.7% โดยในปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะปรับ Business Model เพื่อที่จะรองรับการแข่งขันที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยบริษัทฯได้ให้ความสำคัญด้านช่องทางการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากโปรดักส์ด้านการลงทุน ทั้ง หุ้น และ ทองคำ โปรแกรมเทรดอัจฉริยะ MT4 รวมถึง IPO โดยการเพิ่มช่องทางการลงทุนหลายๆ Platform เพื่อให้รองรับกับการลงทุนในยุคดิจิทัลที่ให้มีความครบ วงจรมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนทั้งรายเดิม และ รายใหม่ ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหุ้นกู้เข้ามาเสริมซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางรายได้ใหม่ โดย ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวบริษัทฯเริ่มออกหุ้นกู้ตั้งแต่กลางปี 59 ที่ผ่านมา โดยปีนี้ยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่องควบคู่กับการรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน รวมถึงการขยายธุรกรรมเพื่อรองรับความผันผวนในการลงทุน ทั้งที่เป็น Brokerage และ Non-Brokerage

นอกจากนี้ บริษัทฯยังส่งเสริมการตลาดด้านธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) การพัฒนาระบบการลงทุนออนไลน์ด้านหลักทรัพย์-อนุพันธ์ เพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงได้ง่ายและมีความหลากหลาย Platform อาทิ Settrade, IZTrade, Stock Radars และ MT4 for TFEX มุ่งเน้นให้ความรู้การลงทุนและ Model Trade แก่นักลงทุนที่เป็นลูกค้า ทั้งการลงทุนในหลักทรัพย์และอนุพันธ์ ขยายฐานลูกค้าไปยังด้านการซื้อขาย หน่วยลงทุนเพิ่ม โดยคาดว่าในไตรมาส 3/61 จะออก "หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง" หรือ Structured Debentures รวมถึงขยายธุรกรรม block trade และธุรกรรม structure note ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขออนุมัติต่อสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี้ เป็นการกระจายฐานลูกค้า ด้วยการเพิ่มรายใหม่ๆ ที่เป็น High Net Worth มากขึ้นหรือนัก ลงทุน รายใหญ่ กลุ่มลูกค้าเงินเย็น ซึ่งหากประสบความสำเร็จ เราก็จะส่งต่อลูกค้าไปยัง Private Fund โดย บริษัทฯมีแผนจะรุกธุรกรรม Private Fund ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ด้านนายธราภุช คูหาเปรมกิจ กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของโฮลดิ้งว่า ในปีนี้ทางบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ โดยจะเน้นในการโปรดักส์ใหม่ๆ เข้ามา เพื่อเป็นการขยายช่องทางการซื้อขาย ให้กับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาลงทุนในทองคำแท่งมากขึ้น โดย ล่าสุด บริษัทฯ ได้ เปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถซื้อขายทองคำแท่ง ผ่าน Application Mobile ทั้งระบบ iOS และ Android รวมถึงการเพิ่มช่องทางข่าวสารของบริษัทฯ โดยเฉพาะการจัดทำบทวิเคราะห์การลงทุนใน ทองคำ ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก ผ่าน Social Media มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ การลงทุนในยุคเทคโนโลยี 4.0

ในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากธุรกิจค้าทองคำ ไว้ที่ระดับ 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-20% รวมทั้งการ ออกไปเจาะตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น

สำหรับภาพรวมการลงทุนในทองคำปีนี้ ทางบริษัทฯคาดว่า ราคาทองคำจะค่อยๆ ทยอยปรับตัว เพิ่มขึ้นและสามารถไปทดสอบที่ราคา 1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ แต่ในช่วงไตรมาส 2/61 คาดจะการ เคลื่อนไหวในกรอบ sideway ก่อนในบริเวณ 1,250-1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากความผันผวนของอัตรา แลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มีความชัดเจน หลังจากนั้นในช่วงครึ่งปีหลังคาดราคาทองจะมีโอกาส ปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,320-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก 6 ปัจจัยหลัก คือ 1.การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แบบค่อยเป็นค่อยไป 2.เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนมากขึ้นจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้า จากจีน และประเทศอื่น 3.ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้คาดว่าอยู่ใน สภาวะฟองสบู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนเลือกที่จะถือทองเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแทน 4.ในส่วน ของ Supply ทอง คาดเหมืองที่เปิดใหม่จะมีการชะลอตัวลง เพราะค่าใช้จ่ายในการสำรวจเหมืองได้ปรับตัว เพิ่มขึ้นราว 229% ในปีที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณทองในเหมืองอาจจะยังไม่คุ้มทุนสำหรับการเปิดเหมืองใหม่มากนัก 5.ความต้องการในอุตสาหกรรมเครื่องประดับของจีนและอินเดียยังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับในงานเทศกาลต่างๆ 6.แนวโน้มการเข้าถือทองคำของธนาคารกลาง ก็ยังทยอยปรับตัว เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่เคยทำจุดต่ำสุดในปี 50

ขณะที่ธุรกิจด้านตราสารอนุพันธ์ นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช รองกรรรมการผู้จัดการ GBX กล่าวว่า ตลาดตราสารอนุพันธ์ในปี 61 ยังมีสินค้าที่ได้รับความนิยม อาทิ Single Stock Futures, SET50 Index futures, Gold Futures และ USD Futures โดยปริมาณการซื้อขาย Single Stock Futures จะมาจากธุรกรรม Block Trad เป็นหลัก สำหรับสินค้าอ้างอิงใน Single Stock Futures คาดว่าทางTFEX กำลังพิจารณาขยายสินค้าอ้างอิงให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมี Single Stock Futures ที่อ้างอิง หลักทรัพย์ไปแล้วทั้งหมด 94 หลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดลักษณะสัญญาของ GOLD-D เพื่อทำให้นักลงทุน ได้ซื้อขายสัญญาล่วงหน้าที่ปราศจากความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอย่างที่ต้องการ

โดยโกลเบล็ก จะเน้นการให้บริการที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถหาผลตอบแทน หรือกำไรที่พึ่ง พอใจจากตลาด TFEX ได้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขายสำหรับนัก ลงทุนออนไลน์ โดยสินค้า TFEX จะมีให้เลือกให้เหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละประเภท เช่น การจัดสัมมนา ให้ความรู้จะกระจายไปสู่ในออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำ Online Workshop ให้กับกลุ่มลูกค้าของ บริษัทฯ นอกจากนี้ โกลเบล็ก ยังชูนวัตกรรมด้านการเทรด ด้วยโปรแกรมอัจฉริยะ ภายใต้ " MT4 SMART EA"

นายระพีพัฒน์ ค่านไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก จำกัด กล่าวถึงโปรแกรมเทรด อัจฉริยะ MT4 SMART EA คือโปรแกรม Robot Trade ที่ช่วยในการส่งคำสั่งอัตโนมัติในตลาด TFEX โดย ที่ผู้ใช้งาน ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเป็นเลย เพราะเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีกลยุทธ์ให้เลือกใช้มากกว่า 20 แบบ และสามารถนำกลยุทธ์เหล่านี้มาใช้ร่วมกันได้

"โปรแกรมนี้ช่วยให้ลงทุนได้มีวินัยมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเฝ้าหน้าจอเทรด ไม่ต้องส่งคำสั่งเองก็ จะทำให้สามารถปฏิบัติตามแผนการลงทุนในระยะ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปีได้ ซึ่งก็จะทำให้เห็นพอร์ทการ ลงทุนที่เติบโตขึ้นได้ชัดเจน และยิ่งถ้าใช้การวางเงินที่เหมาะสมมาเสริมในการบริหารพอร์ทก็จะช่วยให้ รองรับความผันผวนในการลงทุนได้จนสามารถปฏิบัติตามแผนการลงทุนในระยะยาวได้ โดย ปัจจุบันมีกลุ่ม นักลงทุนให้ความสนใจกับ EA เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมี Volume Trade จาก EA เพิ่มขึ้นทุกเดือน และ คาดหวังว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆต่อไปจากการที่พยายามทำการตลาดให้เป็นที่รับรู้มากขึ้น" นายระพีพัฒน์ กล่าว

ขณะที่บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บล.โกลเบล็ก จำกัด ที่อยู่ ภายใต้การดูแลของ นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ทีมงาน โกลเบล็ก ถือว่ามีความ ชำนาญเรื่องงานด้านวาณิชธกิจ IPO โดยปัจจุบันบริษัทฯมีดีล IPO ประมาณ 12 ดีล ซึ่งเป็นกลุ่ม อุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย อาทิ กลุ่มสื่อสาร ขนส่ง วัสดุก่อสร้าง โรงพยาบาล อาหาร สินค้า อุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงการและยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยปีนี้ตั้งเป้าจะยื่นไฟลิ่ง อีก 2 บริษัท ขนาดของธุรกิจ Market Cap ของแต่ละบริษัทประมาณ 1,000 ถึง 2,000 ล้านบาท และตั้งเป้าจะยื่น IPO ประมาณ 3-4 ดีลต่อปี โดยล่าสุด ได้ยื่นไฟลิ่ง ไปแล้วคือ บมจ. โซนิค อินเตอร์เทรด คาดว่าจะสามารถทำการ ซื้อขายได้ในเร็วๆนี้

สำหรับภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 61 มีปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นดัชนีตลาดหุ้นไทย ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวดีในช่วงไตรมาสแรกที่เติบโต 4.8% สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส ส่งผล ให้ GDP ไทยปี 61 โตมากกว่าคาดการณ์เมื่อต้นปี ประกอบกับการส่งออกและภาคท่องเที่ยวมีแนวโน้ม เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการประมูลโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เดินหน้าต่อ นอกจากนี้กฎหมายอีอีซี เริ่มมี ผลบังคับใช้ 15 พ.ค. สร้างความชัดเจนและดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน และราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูง

ส่วนปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 61 มาจากธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3-4 ครั้งในปีนี้ สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนหากไม่สามารถตกลงกันได้ สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกลาง ภาวะหนี้ครัวเรือนเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยยังอยู่ใน ระดับสูง กระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ Fund flow ต่างชาติผันผวน

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBX ได้กล่าวว่า ทางโกลเบล็ก ประเมินกรอบกรอบดัชนีในครึ่งปีหลัง 61 ไว้ที่ระดับ 1,650-1,880 จุด โดยแนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มที่มี ข่าวดี ได้แก่ หุ้นกลุ่มส่งออก แนะนำ CPF และ KCE กลุ่มถ่านหิน ได้แก่ BANPU หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA ,AMATA ,EASTW ,ATP30 และ ORI รวมถึงตลาด mai ที่คาดผลประกอบการปี 2561 เติบโตดี ได้แก่ JUBILE, ATP30, AGE, XO, SSP และ TPCH นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้นกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงในการลงทุน คือ กลุ่มธนาคาร เนื่องจากการบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 และกลุ่มการเงินเนื่องจากมีความกังวล NPL


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ