โบรกฯเชียร์"ซื้อ"BTS คาดกำไรงวดปี 61/62 เติบโตสูงจากทุกธุรกิจ-มีเส้นทางเดินรถใหม่ 4 เส้นทางเปิดธ.ค.61 ถึงปี 64

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 1, 2018 14:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ประสานเสียงเชียร์ "ซื้อ" หุ้นบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) หลังคาดการณ์กำไรหลักในงวดปี 61/62 (เม.ย.61-มี.ค.62) เติบโตราว 69-71% มาที่ 2,615 - 2,674 ล้านบาท จากงวดปี 60/61 มีกำไรหลักที่ 1,559 ล้านบาท และในงวดปี 62/63 ก็จะยังเติบโตต่อเนื่องจากการเติบโตทุกธุรกิจ ทั้งธุรกิจเดินรถ (BTSC) ในเส้นทางหลักมีรายได้เติบโต 3.5-4.0% ธุรกิจสื่อโฆษณา (VGI) ที่แนวโน้มเม็ดเงินโฆษณาฟื้นตัว และอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม (U) ซึ่งปีนี้จะกลับมามีกำไรหลังจาก BTS โอนทรัพย์สินทำให้รายได้กำไรเข้ามาบันทึกทันทีในงวดปี 61/62

BTS จะมีโครงการใหม่เข้ามาในการเดินรถ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ(หมอชิด-คูคต) ทำให้มีระยะทางบริหารเดินรถเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมี 36 กิโลเมตร (กม.) โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองจะเริ่มเปิดให้บริการ ปี 64 รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ จะเปิดบริการในธ.ค.61 และรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือจะเปิดบริการปี 63

ช่วงบ่ายราคาหุ้น BTS อยู่ที่ 9.75 บาท บวก 0.05 บาท (0.52%) สูงสุดรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่ SET ลบ 0.14% โดยราคาหุ้น BTS ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 8.95 บาท (30 เม.ย.)

          โบรกเกอร์                  คำแนะนำ            ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                      ซื้อ                   11.70
          ดีบีเอสฯ                      ซื้อ                   11.00
          เคจีไอฯ                      ซื้อ                   10.60
          ฟิลลิปฯ                     ทยอยสะสม               10.60
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ            ทยอยสะสม               10.50

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับราคาพื้นฐานใหม่สำหรับ BTS เป็น 11.00 บาท จากเดิมที่ 10.50 บาท หลังกำไรสุทธิและกำไรหลักในงวดปี 60/61 (สิ้นสุดมี.ค.61)เติบโตดี จากทุกธุรกิจที่มีพัฒนาการดีขึ้น ได้แก่ รถไฟฟ้า การบริหารเดินรถ โฆษณา โดยเฉพาะโครงการใหม่ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ที่ไม่ขาดทุน ซึ่งปกติช่วงแรกของโครงการน่าจะขาดทุน เป็นเพราะมีดอกเบี้ยรับ จากการที่บันทึกส่วนงานภาครัฐเป็นลูกหนี้ที่จะต้องชดเชยค่าก่อสร้างส่วนโยธาสายสีชมพูและสายสีเหลือง ซึ่งทำให้มีดอกเบี้ยรับชดเชยกับดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดจากการลงทุนในส่วนเครื่องกล การจัดหารถ ก็สามารถบันทึกเป็นสินทรัพย์ได้ (capitalize) นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจให้เช่าและบริการโฆษณาเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรหลัก (ไม่รวมรายการพิเศษ)ของ BTS เพิ่มขึ้นในงวดปี 61/62 เป็น 2,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% หรือเติบโตก้าวกระโดดจากงวดปี 60/61 มีกำไรหลัก 1,559 ล้านบาท และในงวดปี 62/63 มีกำไรหลัก 2,887 ล้านบาท เติบโต 8% จากงวดปี 61/62 เนื่องจากทุกธุรกิจขยายตัวดีที่บริหารผ่านบริษัทย่อย ทั้ง บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) , บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) และ บมจ.ยู ซิตี้ (U) ซึ่งคาด U ในปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรหลังจากที่ BTS โอนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งบริษัทที่ร่วมทุนกับบมจ.แสนสิริ (SIRI) จะทำให้ U จะมีรายได้และกำไร

นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ปรับคำแนะนำให้"ทยอยสะสม" จากเดิม"ซื้อ" สำหรับหุ้น BTS ในราคาเป้าหมายเดิมที่ 10.60 บาท หลังราคาหุ้น BTS ได้ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้ ทั้งนี้ ปัจจัยที่แนะนำให้ลงทุนระยะยาว เนื่องจาก BTS จะมีโครงการใหม่เข้ามาในการเดินรถ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู , รถไฟฟ้าสายสีเหลือง , รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ(หมอชิด-คูคต) ทำให้มีระยะทางบริหารเดินรถเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมี 36 กม.(สายสีเขียวเส้นหลักมีระยะทาง 23.5 กม. และส่วนต่อขยายสายสีเขียวสถานีสะพานตากสิน- สถานีบางหว้า ระยะทาง 12.5 กม)

โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองจะเริ่มเปิดให้บริการปี 64 รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ จะเปิดบริการในธ.ค.61 และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือจะเปิดบริการปี 63 ซึ่งเส้นทางนี้มีประชากรหนาแน่น จะทำให้ธุรกิจเดินรถเติบโตอย่างชัดเจน โดยในส่วนสายสีเขียวเหนือและใต้ เป็นการรับจ้างเดินรถ คาดมีรายได้เติบโต 3.5-4.0%

นอกจากนี้ผลประกอบการ BTS ดีขึ้น เนื่องจาก VGI มีแนวโน้มเติบโตจากทิศทางการมีเม็ดเงินโฆษณาตามภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นทำให้ธุรกิจมีทิศทางดีขึ้น รวมทั้งการเข้าร่วมลงทุนในบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (KERRY)

"เราปรับคำแนะนำเป็นทยอยสะสม เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมา แนะนำซื้อลงทุนระยะยาว เพราะ BTS มีโครงการใหม่รอเปิดทั้งรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง สีเขียวใต้ สีเขียวเหนือ ได้เพิ่มเข้ามาเยอะ"นายสยาม กล่าว

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มกำไรหลักในไตรมาส 1 ของปี 61/62 (เม.ย.-มิ.ย.) ของ BTS จะขยายตัวเมื่อเทียบกับงวดปีก่อน และไตรมาสก่อน ซึ่งได้แรงหนุนจากธุรกิจระบบขนส่งมวลชน (จากการเติบโตจากปัจจัยภายใน) และการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาที่จะหนุนกำไรของ VGI การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยและค่าใช้จ่ายจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรหลักปี 61/62 ที่ 2,615 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่ง 69% จากปี 60/61 (เทียบกับตลาดเติบโต 6%) จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกหน่วยธุรกิจ น่าจะหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อไปได้ และยังมีโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ BTS ในอนาคตจากโครงการระบบขนส่งมวลชนและโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ รวมทั้งโครงการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ BTS ประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นรอบสุดท้ายที่ 0.185 บาท (รวมเป็น 0.35 บาทสำหรับปี 60/61) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 2.0% (ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 1 ส.ค. และจ่ายเงินปันผลวันที่ 16 ส.ค.)

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BTS ในปี 61/62 จะดีต่อเนื่อง โดยจะเด่นในกลุ่มรถไฟฟ้าเป็นสำคัญ จากการก่อสร้างส่วนต่อขยาย และการจะเปิดส่วนต่อขยายเขียวใต้ทั้งหมดในปลายปี 61 นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ