EA คาดรายได้ Q2/61 โตต่อเนื่องจากกำลังการผลิตเพิ่ม ,ศึกษาลงทุนโซลาร์ฟาร์มในเวียดนามคาดชัดเจนภายในปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 4, 2018 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ไตรมาสที่ 2/61 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1/61 เนื่องจากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากรับรู้โรงไฟฟ้าพลังงานลมหาดกังหัน 126 เมกะวัตต์ (MW) ได้เต็มปี และเชื่อว่าภาพรวมในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ประกอบกับมีกำลังการผลิตใหม่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบต่อเนื่อง ผลักดันให้คาดว่าปลายปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 664 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 404 เมกกะวัตต์

โดยบริษัทมีแผนเริ่มการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานลม ในโครงการหนุมาน จ.ชัยภูมิ 260 เมกะวัตต์ ในไตรมาสที่ 4/61 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งเสาและใบพัด จำนวน 103 ต้น กำลังการผลิตต้นละ 2.5 เมกะวัตต์

ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตสารแปรสภาพ (PCM) ซึ่งต่อยอดจากโรงงานไบโอดีเซลเดิม ภายในเดือนก.ค.61 กำลังการผลิต 1 ตันต่อวัน และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในเดือน ส.ค.นี้ โดยเบื้องต้นจะเริ่มส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น จากความต้องการค่อนข้างมาก ประกอบกับปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่ง และในระยะต่อไปคาดว่าจะมีการส่งออกไปยังเยอรมนีด้วย

นอกจากนี้บริษัทมีแผนตั้งโรงงานผลิตไบโอดีเซล และ PCM ที่จังหวัดระยองในปลายปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนราว 2 พันล้านบาท ทยอยลงทุนตั้งแต่ปี 61-62 กำลังการผลิตรวม 1.3 แสนลิตร/วัน คาดจะสามารถผลิตได้เต็มกำลังการผลิตในปี 62 ส่วนความร่วมมือกับบมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ยังต้องรอสรุปรูปแบบความร่วมมือและขอบเขตที่ชัดเจน

ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ราว 2.6 หมื่นล้านบาท โดยจะใช้แบ่งเป็นการลงทุนโครงการหนุมาน 1.8 หมื่นล้านบาท โครงการไบโอดีเซล 2 พันล้านบาท โครงการโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟส 1 มูลค่า 4 พันล้านบาท สถานีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ 800 ล้านบาท และงบวิจัยและพัฒนา (R&D) 300 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ 2 หมื่นล้านบาท จากการขอมติอนุมัติในการประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา คาดว่าจะมีการออกในปลายปีนี้ ขณะที่ปัจจุบันบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเป็น A- จากเดิม BBB+ ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ในการลดต้นทุนดอกเบี้ยราว 1% หรือคิดเป็นราว 100 ล้านบาทต่อปี

ส่วนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ปัจจุบันมองว่าในเวียดนามค่อนข้างมีความคืบหน้าที่สุด โดยบริษัทมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น และตั้งเป้าหมายการถือหุ้นเป็น mojority หรือมากกว่า 51% เพื่อเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์และแบตเตอรี่ มองว่าจะต้องใช้งบลงทุนค่อนข้างมาก โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้

"บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมปรับโครงสร้างใหม่ ทั้งคน เงินทุน ธุรกิจใหม่ และ R&D เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต" นางออมสิน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ