TPCH คาดงบ Q2/61 โตดีกว่า Q1/61 และ Q2/60 จากรับรู้รายได้ 6 โรงไฟฟ้าเข้ามาเต็มปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 5, 2018 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/61 และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้จากโครงการไฟฟ้าชีวมวลเข้าสู่ระบบ (COD) ครบทั้ง 6 โรง เข้ามาเต็มปี ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE),โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG ) โรงไฟฟ้าชีวมวล พัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์

ล่าสุดบริษัทฯ ได้มีการเดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) กำลังการผลิตอยู่ที่ 9.2 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 6 ที่ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวลรวมทั้งสิ้น 60 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีที่ผ่านมามีการ COD อยู่ที่ 50 เมกะวัตต์

ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงมั่นใจกำไรสุทธิและรายได้ในปีนี้จะเติบโตดีกว่าปีก่อน จากปีก่อนมีกำไรสุทธิที่ 207.36 ล้านบาท และมีรายได้ 1.1 พันล้านบาท เป็นไปตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือคาดสิ้นปีจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านหน่วย จากไตรมาสแรกอยู่ที่ 93 ล้านหน่วย และคาดไตรมาส 2/61 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 110 ล้านหน่วย จากการรับรู้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 6 โรง

"เรามั่นใจว่าปีนี้กำไรสุทธิและรายได้จะเติบโตดีกว่าปีก่อนเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเราก็มีการ COD โครงการ โรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) กำลังการผลิตอยู่ที่ 9.2 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าแห่งที่ 6 ทำให้ในปีนี้เราจะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีทั้ง 6 แห่ง ประกอบกับเรามีการลดต้นทุนวัสถุดิบ ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) และโรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) ซึ่งจะสามารถเพิ่มกำไรสุทธิของโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่ง 8-10%"

นอกจากนี้บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 โครงการ ซึ่งมีแผนที่จะจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในปี 62 กำลังการผลิตรวม 49 เมกะวัตต์ รวมทั้งมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาทั้งสิ้น 10 เมกะวัตต์ รวมโครงการทั้งสิ้น 119 เมกะวัตต์ ซึ่งการดำเนินงานที่เป็นไปตามแผน ทำให้มั่นใจว่า บริษัทฯ จะมีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะรวมเป็น 50 เมกะวัตต์ภายในปี 63 ตามเป้าหมาย

นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังเดินหน้าแสวงหาโอกาสในการลงทุน เพื่อขยายธุรกิจเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลและชีวภาพ ขนาด 300 เมกะวัตต์ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งจะเข้าไปสู่การพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะชุมชนมากขึ้น จากปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาแล้ว 10 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มเป็น 50 เมกะวัตต์ ภายในปี 63 และบริษัทฯ จะดำเนินแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าควบคู่ไปกับการลดต้นทุน โดยขณะนี้ได้มีการปลูกพืชพลังงานเป็นเชื้อเพลิงเพื่อลดต้นทุนโรงไฟฟ้า ซึ่งผลการทดลองในเรื่องดังกล่าวถือว่าได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจมาก อีกทั้งยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยมองไปยังประเทศกลุ่ม CLMV และญี่ปุ่น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการศึกษาได้ในปี 62

สำหรับเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ บริษัทฯ มีเงินลงทุนเพียงพอ เนื่องจากมีเงินที่ได้จากการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก ( IPO)โดยระดมเงินทุนได้ 1.1 พันล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E)ขณะนี้มีอยู่เพียง 1.12 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ