ทริสฯคงอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ของ EDL-Gen ที่ระดับ "BBB+" แนวโน้ม "Negative"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 8, 2018 13:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ EDL-Generation Public Company (EDL-Gen) ที่ระดับ "BBB+" อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะเครดิตของ Electricite du Laos (EDL) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้รับซื้อไฟฟ้าแต่เพียงรายเดียวของบริษัท EDL มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ดังนั้นสถานะเครดิตของ EDL จึงขึ้นอยู่กับอันดับเครดิตของรัฐบาล สปป. ลาว ซึ่งได้รับอันดับเครดิตระดับ "BBB+/Negative" จากทริสเรทติ้ง นอกจากนี้ อันดับเครดิตของ EDL-Gen ยังเกี่ยวข้องกับสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าใน สปป. ลาว ด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดบางส่วนจากสถานะเครดิตประเทศของ สปป. ลาว ตลอดจนแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของ EDL และความเสี่ยงด้านอุทกวิทยาใน สปป. ลาว

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะเครดิตของ EDL-Gen สะท้อนถึงสถานะเครดิตของ EDL และ สปป. ลาว

สถานะเครดิตของ EDL-Gen สะท้อนถึงสถานะเครดิตของ EDL เนื่องจาก EDL ถือหุ้น 75% ใน EDL-Gen นอกจากนี้ EDL ยังมีการผสานธุรกิจอย่างเป็นหนึ่งเดียวกับ EDL-Gen ทั้งในด้านการซื้อไฟฟ้า รวมถึงโอกาสในการขยายธุรกิจ โครงสร้างสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในอนาคต และนโยบายการจ่ายเงินปันผลอีกด้วย ทั้งนี้ EDL เป็นตัวแทนของ สปป. ลาว ในการรับซื้อไฟฟ้าแต่เพียงรายเดียว และเป็นเจ้าของโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับโรงไฟฟ้าที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของทุกแห่งในปัจจุบันและรวมถึงโครงการในอนาคตอีกด้วยเช่นกัน

EDL มีกระทรวงการเงินของ สปป. ลาว หรือ Ministry of Finance of Lao PDR (MOFL) เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ดังนั้น สถานะเครดิตของ EDL สะท้อนถึงความเป็นไปได้ในระดับสูงที่รัฐบาล สปป. ลาว จะให้การสนับสนุนในภาวะที่ EDL เผชิญกับความยากลำบาก โดยสมมติฐานนี้มีปัจจัยสนับสนุน 2 ประการ ได้แก่ การที่ทั้ง EDL และ EDL-Gen ต่างก็มีบทบาทสำคัญตามแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าของ สปป. ลาว นอกจากนี้ อุตสาหกรรมไฟฟ้ายังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของ สปป. ลาว ให้มีความทันสมัยก้าวหน้าตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อีกด้วย

มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าของ สปป. ลาว

EDL-Gen เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 2 ของ สปป. ลาว เมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิตโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 17.6% ของกำลังการผลิตรวมของ สปป. ลาว อย่างไรก็ตาม EDL-Gen เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในส่วนของการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในประเทศ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 39%

ณ เดือนมีนาคม 2561 EDL-Gen เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 10 แห่งใน สปป. ลาว ด้วยกำลังการผลิตรวม 619 เมกะวัตต์ เมื่อรวมการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 5 แห่งภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent Power Producer – IPP) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 1 แห่งแล้ว กำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนของ EDL-Gen คิดเป็น 1,137 เมกะวัตต์ ณ เดือนมีนาคม 2561

ผลการดำเนินงานในปัจจุบันต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย

ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำของ EDL-Gen ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Water Inflow) ในปี 2560 ปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทลดลง 5% เป็น 2,575 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (ล้านหน่วย) จาก 2,685 ล้านหน่วยในปี 2559 ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากปริมาณน้ำไหลเข้าที่ลดลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าจะลดลง แต่รายได้ของบริษัทก็ลดลงเพียง 1.7% จาก 1.24 ล้านล้านกีบในปี 2559 เป็น 1.22 ล้านล้านกีบในปี 2560 เนื่องจากราคาขายไฟฟ้าสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ 1% ต่อปี นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินกีบเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยเนื่องจากราคาขายไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าใหม่ 3 แห่งที่เพิ่มเข้ามาในช่วงปลายปี 2558 คิดราคาเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

แผนการลงทุนขนาดใหญ่

ในช่วงปี 2561-2566 บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1,253 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 16.1 ล้านล้านกีบ โดยกำลังการผลิตของ EDL-Gen จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากระดับปัจจุบันที่ 1,137 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2560 เป็น 2,390 เมกะวัตต์ในปี 2566

ในช่วงปี 2561-2565 บริษัทมีแผนการลงทุนประมาณ 16 ล้านล้านกีบ โดยประมาณ 60% จะนำไปใช้สำหรับการซื้อโรงไฟฟ้าจาก EDL และก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้สำหรับซื้อหุ้นในโครงการ IPP ซึ่งการลงทุนใน IPP นี้รวมถึงการซื้อหุ้น 20% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (กำลังการผลิตรวม 1,285 เมกะวัตต์) และหุ้น 20% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Donsahong (กำลังการผลิตรวม 260 เมกะวัตต์) โดยทั้ง 2 โครงการนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในปี 2562 ซึ่งจากแผนการลงทุนทั้งหมด 16 ล้านล้านกีบนี้ EDL-Gen ได้จ่ายชำระค่าหุ้นล่วงหน้าให้แก่ EDL ไปแล้วประมาณ 4.4 ล้านล้านกีบสำหรับโครงการต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่

ภาระหนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

โครงสร้างเงินทุนของบริษัทคาดว่าจะอ่อนแอลงในช่วงการลงทุน ทั้งนี้ จากสมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 9.8 ล้านล้านกีบ ณ สิ้นปี 2560 สู่ระดับสูงสุดที่ประมาณ 17.8 ล้านล้านกีบในปี 2565 โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะลดลงมาอยู่ในช่วง 60%-63% ระหว่างปี 2561-2565 เมื่อเทียบกับ 51.5% ณ สิ้นปี 2560

กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นหลังปี 2564

จากประมาณการของทริสเรทติ้งคาดว่า EDL-Gen จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยที่ 11% ต่อปี (Compounded Annual Growth Rate) ระหว่างปี 2560-2565 โดยคาดว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะเพิ่มขึ้นจาก 1.46 ล้านล้านกีบในปี 2560 เป็นประมาณ 2.7 ล้านล้านกีบในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่โครงการเกือบทั้งหมดเปิดดำเนินงานเต็มปี ในขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) จะยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 80%

สภาพคล่องอยู่ในระดับปานกลาง

สภาพคล่องของ EDL-Gen อยู่ในระดับปานกลาง โดยแหล่งที่มาของเงินทุนประกอบด้วยเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 1.59 ล้านล้านกีบรวมทั้งวงเงินกู้ยืมจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีก 0.09 ล้านล้านกีบ ณ เดือนมีนาคม 2561 เงินทุนจากการดำเนินงานในระยะ 12 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.71 ล้านล้านกีบ ในขณะที่บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในระยะ 12 เดือนข้างหน้าค่อนข้างมากที่ 1.53 ล้านล้านกีบ

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต "Negative" หรือ "ลบ" สะท้อนถึงแนวโน้มอันดับเครดิตของ สปป. ลาว โดยทริสเรทติ้งคาดว่าโครงสร้างธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่าง EDL และ EDL-Gen จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังคาดว่า EDL-Gen จะสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผนและสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่งโดยที่ EDL จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ EDL-Gen และ EDL จะยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล สปป. ลาว ต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทกลับมาเป็น "Stable" หรือ "คงที่" นั้นขึ้นอยู่กับแนวโน้มอันดับเครดิตของ สปป. ลาว เป็นสำคัญ ปัจจัยที่มีผลในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทคือการปรับลดอันดับเครดิตของรัฐบาล สปป. ลาว หรือบริษัทมีการลงทุนขนาดใหญ่ที่เป็นเหตุทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับเกินกว่า 65% อย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ