(เพิ่มเติม) TICON จัดทัพใหม่เพิ่ม 2 กลุ่มธุรกิจ ดึงเทคโนโลยีเสริมทัพ-ผนึกพันธมิตรเสริมศักยภาพ คาดสัดส่วนรายได้โตเป็น 10-20% ใน 3 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 10, 2018 13:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าตามแผนโรดแมพ 3 ปี เปิดเกมรุกขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Total Dimension ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ ก้าวสู่การเป็น "ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม"ดึงเทคโนโลยีชั้นสูงมาต่อยอดทุกธุรกิจเต็มรูปแบบ จัดทัพครั้งใหญ่รับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล เพิ่ม 2 กลุ่มธุรกิจใหม่ กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Centre) และกลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น (Smart Solution) เสริมกลุ่มเดิมที่มีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial property)

ล่าสุดจับมือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์"จัสท์โค" (JustCo) ผู้ให้บริการ Co-Working Space ระดับพรีเมี่ยมอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยก่อนหน้านี้ JustCo ได้ร่วมลงทุนมูลค่า 177 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับกองทุน GIC ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของสิงคโปร์ และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีเครือข่ายธุรกิจอยู่ทั่วโลก และจะเน้นต่อยอดธุรกิจบนแพลตฟอร์มแบบผสมผสาน (Integrated Platform) ของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ เพื่อนำเสนออาคารบริการและโซลูชั่นที่ตอบความต้องการตลาดและตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและขยายธุรกิจสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ทะยานสู่ผู้นำอันดับหนึ่งในระดับอาเซียนภายในปี 63

นายปณต กล่าวว่า การร่วมมือกับจัสท์โค เพื่อขยายธุรกิจตามแผนโรดแมพ 3 ปี (ปี 61-63) ที่จะขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ ก้าวสู้การเป็นผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (The leading provider of smart industrial platform) ในระดับอาเซียนภายในปี 63 โดยจะเน้นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาและต่อยอดธุรกิจเพื่อให้เกิดมูลค่าและประสิทธิภาพให้ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเดิม อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Property) และกลุ่มธุรกิจใหม่ คือดาต้าเซ็นเตอร์ และสมาร์ทโซลูชั่น ซึ่งจะดำเนินงานควบคู่ไปกับแนวทางการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อผนึกศักยภาพและนำมาเสริมธุรกิจให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จาก 2 ธุรกิจใหม่ 10-20% ภายใน 3 ปี

ทั้งนี้ แนวทางในการนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม บริษัทฯจะเดินหน้านำระบบออโตเมชั่น (Automotion) เทคโนโลยีสมัยใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาพื้นที่ให้บริการให้สามารถรองรับกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve ในยุค 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าและโรงงานอัจฉริยะ (Smart Logistics and smart Factory) พร้อมกับพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ขนาด 1 แสนตารางเมตรภายใน 3 ปี โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท

กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากได้ประกาศความร่วมมือกับ เอสทีที จีดีซี (STT GDC) บริษัทชั้นนำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ เพื่อรุกธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย โดยเตรียมแผนเดินหน้านำเทคโนโลยี ความรู้ ความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กรมาใช้พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่แห่งแรกบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ในกลางกรุงเทพฯ ตั้งเป้าเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัย และปลอดภัย มาตรฐานระดับสากล รองรับความต้องการของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมลงทุนขนาดไม่ต่ำกว่า 1 พันแร็ค บนพื้นที่ 10-15 ไร่ ในกรุงเทพฯ คาดว่าจะสรุปงบลงทุนได้ไม่เกินไตรมาส 4/61 และน่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ภายใน 2 ปีนี้

ด้านกลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น จากการจับมือกับ จัสท์โค ซึ่งถือว่ามีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านวิเคราะห์ข้อมูล เทคโนโลยีเกี่ยวกับสถานที่ทำงานและการบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าสมาชิก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของไทคอนในการนำเสนอโซลูชั่นที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และก้าวเป็นอันดับหนึ่งในการบริการCo-Working Space ในประเทศไทยและอาเซียน โดยปัจจุบันจัสท์โค มีพื้นที่ให้เช่าในประเทศไทยอยู่จำนวน 2 แห่ง รวม 8 หมื่นตารางฟุต ซึ่งคาดว่าการขยายพื้นที่ในอนาคตต่อไปจะมีขนาดพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นประมาณ 6-7 หมื่นตารางฟุต และภายใน 2 ปีจะมีขนาดพื้นที่ให้เช่าไม่ต่ำกว่า 3 แสนตารางฟุต

พร้อมกันนี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ปี 61 ไว้ตามเดิม หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน โดยจะมาจากการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมเป็นหลัก เป็นไปตามการลงทุนที่กลับเข้ามามากขึ้น และเศรษฐกิจในประเทศมีการขยายตัวดี ขณะที่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ก็มองว่าน่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากบริษัทฯ เตรียมดำเนินการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังนี้

"เรายังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ตามเดิม เนื่องด้วยธุรกิจใหม่ 2 ธุรกิจทั้งดาต้าเซ็นเตอร์และสมาร์ทโซลูชั่น เราเพิ่งจะเริ่มดำเนินการ และยังต้องมีการลงทุนอีกมาก ทำให้การรับรู้รายได้น่าจะยังไม่เห็นใน 2 ปีนี้"นายปณต กล่าว

ด้านนายคง วัน ซิง ผู้ก่อตั้งและประธาน JustCo กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเสริมซึ่งกันและกันและก่อตัวเป็นพลังทางธุรกิจครั้งใหม่ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของพันธมิตรทั้ง 2 ฝ่าย โดยหลังจากการเกิดให้บริการ Co-Working Space สาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่อาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ เมื่อพ.ค.ที่ผ่านมา ได้เตรียมเปิดสาขาที่ 2 ที่แคปปิตอล ทาวเวอร์ ในออล ซีซั่น เพลสในเดือนก.ค.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ