นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธุรกิจบัตรเครดิตของ KBANK ในครึ่งปีแรกมีจำนวนบัตรเครดิตใหม่เพิ่มขึ้น 200,000 บัตร จากเป้าหมายทั้งปีที่ 350,000 บัตร ซึ่งธนาคารคาดว่าในปีนี้จำนวนบัตรเครดิตใหม่มีโอกาสเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากจะมีบัตรเครดิตที่ร่วมมือกับพันธมิตรเป็นอีกหนึ่งแรงหนุน
ล่าสุด KBANK ได้ร่วมมือกับบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดตัว "บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย" ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่แห่งวงการบัตรเครดิตที่เป็นการผสานศักยภาพความเป็นผู้นำของทั่งสองฝ่าย โดย KBANK คือ หนึ่งในผู้นำธุรกิจบัตรเครดิต ในขณะที่สยามพิวรรธน์ เป็นผู้นำแห่งธุรกิจรีเทล ผู้พัฒนา"วันสยาม"จนขึ้นแท่นเป็น Global Destination หรือจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าจะมีผู้สมัครใช้บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทยมากกว่า 100,000 ใบ ภายใน 1 ปี และมีมูลค่าการใช้จ่ายรวม 5.7 พันล้านบาท ซึ่งลูกค้าสามารถสมัครบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป
นอกจากนี้ KBANK ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ได้แก วีซ่า (VISA) และสายการบินเอมิเรสต์ ที่มาร่วมคัดสรรสุดยอดของสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์สำหรับลูกค้าเพื่อสร้างความแตกต่างและมอบความประทับใจให้กับทุกการใช้จ่ายและการใช้บริการภายในวันสยาม
ส่วนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KBANK ในครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 5% หรือคิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายรวม 1.7 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นการเติบโตใกล้เคียงกับภาพรวมตลาดบัตรเครดิตที่เติบโตราว 5% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบัตรเครดิตระดับบน ได้แก่ บัตรเครดิต Wisdom, Passion และ Premeir ที่มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง 89,000 บาท/บัตร/เดือน ขณะที่บัตรเครดิตประเภทอื่นๆ มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 21,000 บาท/บัตร/เดือน
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า แนวทางธุรกิจบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทยได้เน้นการพัฒนาให้เป็น Lifestyle Credit Card สร้างประสบการณ์และความประทับใจด้วยการมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม และมีกิจกรรมการตลาดที่แปลกใหม่ รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรระดับผู้นำด้านไลฟ์สไตล์เพื่อทำให้ลูกค้าประมับใจและเลือกไชิบัตรเครดิตกสิกรไทยเป็นบัตรใบเดียวในการใช้จ่ายทุกวัน
ปัจจุบัน KBANK มีฐานลูกค้าผู้ใช้บัตรเครดิต 2.6 ล้านบัตร มียอดใช้จ่ายในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา 1.75 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ย 21,000 บาท/บัตร/เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง
บริษัทมองว่าแนวโน้มของกำลังซื้อมีการฟื้นตัวขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะกำลังซื้อของลูกค้าระดับบนที่ได้รับอานิสงส์อย่างมีนัยสำคัญจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ทำให้การจับจ่ายของลูกค้าระดับบนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการทำกิจกกรมทางการตลาดร่วมกับพันธมิตรร้านค้าต่างๆ และการมอบสิทธิพิเศษที่ธนาคารให้กับลูกค้า รวมถึงการสนับสนุนการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ถือว่าเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายผ่านบัตรเครดิตให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขณะที่คุณภาพหนี้ของลูกค้าผู้ใช้บัตรเครดิตมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าบัตรเครดิตของ KBANK ลดลงมาอยู่ที่ 1.59% จากสิ้นปี 60 อยู่ที่ 1.7% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ลูกค้ามีวินัยในการชำระที่ดี ซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าที่ชำระเต็มที่ 55% ของฐานลูกค้าทั้งหมด และอีก 45% เป็นสัดส่วนลูกค้าที่ชำระขั้นต่ำ และการขยายฐานบัตรเครดิตของธนาคารที่เน้นกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูงมากขึ้น รวมไปถึงกฏเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ควบคุมการอนุมัติวงเงินบัตรเครดิต ส่งผลให้ NPL มีการปรับตัวลดลง ต่างจากเมื่อหลายปีก่อนที่ NPL ของบัตรเครดิตอยู่ที่ 3-4% และในปีนี้ธนาคารจะควบคุม NPL บัตรเครดิตให้ไม่เกิน 2%