(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นเหวี่ยงขึ้น เล็งรับ Sentiment บวกจากตปท. แต่ระวังแรงขายทำกำไรระหว่างทาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 26, 2018 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเหวี่ยงตัวขึ้นไปได้ต่อ แต่เมื่อขึ้นมาแถวบริเวณ 1,695-1,700 จุด ก็ให้ระวังแรง Take Profit โดยตลาดฯคงจะได้รับ Sentiment บวกจากต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ตามดาวโจนส์ที่ปรับตัวขึ้น คงเป็นผลจากผ่อนคลายสงครามการค้า และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯออกมาดี

ส่วนตลาดบ้านเราคงจะต้องจับตาดูการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่ม Real Sector ต่อไป ซึ่งก็คาดว่าจะไม่ตื่นเต้นอะไร พร้อมให้แนวรับ 1,675 จุด ส่วนแนวต้านอยู่บริเวณ 1,695-1,700 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ก.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,414.10 จุด เพิ่มขึ้น 172.16 จุด (+0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,846.07 จุด เพิ่มขึ้น 25.67 จุด (+0.91%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,932.24 จุด เพิ่มขึ้น 91.47 จุด (+1.17%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 97.34 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.14 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 162.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.54 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 43.86 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ค.61) 1,690.08 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด (+0.95%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 329.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.ค.61) ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ค.61) ที่ 6.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.23 แนวโน้มแข็งค่าตามทิศทางภูมิภาค ขานรับข้อตกลงเจรจาการค้าสหรัฐฯ-EU
  • "อุตตม" สุดปลื้มบีโอไอโชว์ยอดขอรับ ส่งเสริมฯ ลงทุนครึ่งปีแรกโตต่อเนื่องโดยในอีอีซีพุ่ง 122% มั่นใจครึ่งปีหลัง ไปต่อหลังนักลงทุนจีน-ญี่ปุ่นจ่อคิวพาเหรดลงพื้นที่ตัดสินใจลงทุนเพิ่ม นับถอยหลัง 6 เดือนที่เหลือเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเชื่อมอุตฯ เป้าหมายกับเอสเอ็มอีดึง ITC-CIV กลไกขับเคลื่อน
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ คาดว่าการส่งออก ปี 2561 จะขยายตัวได้ 9% เนื่องจากการส่งออกขยายตัวได้ดีมากจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกขยายตัวดี ราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูง และผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกยังขยายฐานการผลิตในไทย
  • "สมคิด" สั่งการ 18 รัฐวิสาหกิจใหญ่ตะลุยเบิกจ่ายงบลงทุน หวังเป็นเครื่องจักรสำคัญดันเศรษฐกิจไทยขยายตัวแรงถึง 5% ชู "ปตท.-กฟผ.-ประปา" แชมป์ลงทุนเก่ง "บัญชีกลาง" แจงยิบเกณฑ์ตีกรอบเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็ง-โลหิตวิทยา สำหรับยา 9 รายการ ชี้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล
  • ที่ประชุมบอร์ด กสทช.มีมติจำกัดการลงทะเบียนซิมมือถือได้ไม่เกิน 5 ซิมต่อ 1 คน ต่อค่ายมือถือ หากจะซื้อซิมเกิน 5 ซิม ให้ไปซื้อที่ศูนย์บริการลูกค้าของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และค่ายมือถือจะต้องรายงานให้สำนักงาน กสทช.รับทราบด้วย ขณะเดียวกันหากตัวแทนจำหน่ายซิมมือถือเกิน 5 ซิม ค่ายมือถือจะต้องรับผิดชอบด้วย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 2561 เป็นต้นไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MILL-W5 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 905,044,920 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 2 ปี โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 1.80 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 28 ก.ย.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 10 ก.ค.63
  • BANPU (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 28 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว Q2/61 คาดมีกำไรสุทธิประมาณ 4 พันล้านบาท เทียบกับ Q1/61 ขาดทุน 1.26 พันล้านบาท นอกจากนี้ระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้นใกล้แตะจุดสูงสุดของปีที่ระดับ 117 เหรียญ/ตัน
  • MTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 51 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/61 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องที่ 850-860 ล้านบาท +2-3% Q-Q, +50% Y-Y โดยการปล่อยสินเชื่อคาดว่าจะทำได้ตามเป้าที่ 40-50% Y-Y เพราะเป็นช่วงเปิดเทอมและผลจากการเร่งเปิดสาขาช่วงต้นปี ซึ่งล่าสุดแตะ 2,800 สาขาไปแล้ว ด้าน PE2561-62 ต่ำเพียง 18-24 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 33 เท่า และราคาหุ้นกลับไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้ครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ถือเป็นสัญญาณบวกในการปรับตัวขึ้น
  • AOT (ไอร่า) เป้า 83 บาท คาดเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต มีผลกระทบเพียงระยะสั้น โดยกรณีเลวร้ายหากมีการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอีกครั้ง ไม่น่าจะแย่กว่าครั้งก่อนที่ใช้เวลาราว 7 เดือน นักท่องเที่ยวจีนจึงจะกลับมาเติบโตเป็นปกติ โดยยังมีปัจจัยบวกจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงสนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง และอู่ตะเภา ที่จะเพิ่มประสิทธิของสินทรัพย์ในระยะยาว และแผนการเข้าบริหารสนามบินภูมิภาค 4 แห่ง ที่มีภาระการลงทุนต่ำราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะสามารถช่วยลดความแออัดของสนามบินหลักได้ รวมถึงรายได้ส่วนเพิ่มจากการประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีภายในสิ้นปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ