ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (17 ธ.ค.) โดยดัชนีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่โบรกเกอร์ระบุว่า การที่นักลงทุนกู้ยืมเงินมาลงทุนทำมาร์จิ้น คอลล์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองจากมูลค่าหุ้นที่หดตัวลงนั้น ถือเป็นอีกปัจจัยลบที่เข้ามาในตลาด ตลาดหุ้นไต้หวันดิ่งลงตั้งแต่เริ่มต้นวันทำการ โดยได้รับปัจจัยลบจากดาวโจนส์ปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะไม่ลดดอกเบี้ยลงอีก นอกจากนี้ ความวิตกกังวลทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น ก่อนหน้าการเลือกตั้งรัฐสภาไต้หวันที่จะจัดขึ้นในเดือนมกราคม และการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคม ก็มีส่วนกดให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า เวทเต็ดทรุดลง 287.23 จุด หรือ 3.54% แตะระดับต่ำสุดของวันที่ 7,830.85 จุด และมีมูลค่าการซื้อขาย 1.15 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ซึ่งปิดตลาดที่ 7,788.14 จุด แซมซั่น เจิ้ง นักวิเคราะห์จากหยวนต้า คอร์ แปซิฟิก แคปิตอล แมนเนจเมนท์ กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันและรายย่อยรู้สึกวิตกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และภาวะผันผวนภายในประเทศ รวมทั้งการทำมาร์จิ้น คอลล์ ก็ดึงดัชนีให้ดิ่งลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกต่อสัญญาณการเพิ่มเงินค่าจ้างและภาษีในจีน ซึ่งจะลดกำไรของบริษัทไต้หวันที่ลงทุนในจีนลง ขณะที่ ดัชนีไม่สามารถรีบาวน์ในช่วงแรกได้ ทำให้เกิดการเทขายอย่างตื่นตระหนก หุ้น ยูนิ-เพรซิเดนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ ร่วงลง 2.60 ดอลลาร์ไต้หวัน แตะที่ 35.25 ดอลลาร์ไต้หวัน ขณะที่ ยูนิ-เพรซิเดนท์ ไชน่า โฮลดิ้งส์ วิ่งขึ้นเกือบ 1% โดยหุ้นดังกล่าวซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้เป็นวันแรก ทั้งนี้ หุ้น เฟิร์สท์ ไฟแนนเชียล โฮลดิ้ง ร่วงลง 0.30 ดอลลาร์ไต้หวัน ปิดที่ 23.70 ดอลลาร์ไต้หวัน แม้มีข่าวธนาคารในเครือ เฟิร์สท์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ และซูมิตโตโม มิตซุย แบงค์กิ้ง คอร์ป ของญี่ปุ่นจะลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมมือกันในระดับปฏิบัติการก็ตาม