BTS รับมอบรถไฟฟ้าใหม่ขบวนแรก รองรับส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ เตรียมเปิดใช้ธ.ค.61

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 6, 2018 12:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) บริษัทย่อย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า ในวันนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนแรก จากกรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ได้เดินทางมาถึง ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นที่เรียบร้อย ที่ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยขบวนรถไฟฟ้าใหม่ จากบริษัทซีเมนส์ นี้ ทำการออกแบบโดยผลิตชิ้นส่วนต่างๆในเยอรมนี และออสเตรีย เป็นส่วนใหญ่ และนำมาประกอบที่โรงงานของบริษัท Bozankaya ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทซีเมนส์ และเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยรถไฟฟ้าขบวนใหม่นี้ จะมีการปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน และมีพื้นที่จุคนได้มากขึ้นในขบวนรถ เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของบริษัทซีเมนส์ทุกประการ และจะใช้สเปคเดียวกันหรือดีกว่าขบวนรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เข้ากันได้กับระบบต่างๆที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ แต่จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดจากผู้ผลิตชั้นนำของโลก เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน และลดความหนาแน่นของผู้โดยสารที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

นายกิติศักดิ์ อร่ามเรือง ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กล่าวว่า สำหรับรถไฟฟ้าขบวนแรกนี้ เป็นขบวนรถไฟในจำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจาก บริษัทซีเมนส์ จำกัด เพื่อนำมารองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสในปัจจุบัน และส่วนต่อขยาย สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในเดือนธันวาคม 2561

ประกอบด้วยสถานีรวมทั้งสิ้น 9 สถานี ซึ่งเมื่อปี 2560 ได้เปิดให้บริการ จำนวน 1 สถานีคือ สถานีสำโรง และอีก 8 สถานีที่จะเปิดให้บริการปลายปีนี้ ประกอบด้วย สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีสุดท้าย คือ สถานีเคหะฯ และเมื่อส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วง หมอชิต - สะพานใหม่ –คูคต เสร็จเรียบร้อย รวมทั้งเส้นทางของรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยและประหยัดเวลา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ