(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามภูมิภาค หลังต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่อง-ราคาน้ำมันฟื้น-เก็งงบฯ Q2/61 หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 7, 2018 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นหลังจากที่วานนี้ปรับตัวลงมากเกินไป และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็ออกมาดีตามคาด รวมถึงนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบก็รีบาวด์ขึ้นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กลับมาคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ซึ่งน่าจะช่วยหนุนการลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี ภาพรวมต้องระวังหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก ส่วนหนึ่งอาจมาจากอยู่ในช่วงของการเก็งกำไรผลประกอบการด้วย และเมื่อคืนดาวโจนส์ก็อยู่ในแดนบวก ทำให้เป็น Sentiment ที่ดีต่อตลาดภูมิภาคเช้านี้

ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการต่อไป โดยวันนี้ก็มี TOP ประกาศงบการเงินไตรมาส 2/61 พร้อมให้แนวรับ 1,690 จุด ส่วนแนวต้าน 1,710-1,720 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 ส.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,502.18 จุด เพิ่มขึ้น 39.60 จุด (+0.16%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,850.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด (+0.35%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,859.68 จุด เพิ่มขึ้น 47.66 จุด (+0.61%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 6.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.58 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 69.88 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 0.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.57 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.59 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ส.ค.61) 1,696.24 จุด ลดลง 15.85 จุด (-0.93%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,258.84 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ส.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 ส.ค.61) ปิดที่ 69.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ส.ค.61) ที่ 6.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.35 คาดวันนี้แกว่งในกรอบ 33.30-33.45 ตลาดรอติดตามการประชุมกนง.พรุ่งนี้
  • ตลาดหลักทรัพย์ เปิดรายชื่อบริษัทจดทะเบียน 42 แห่ง ห้ามนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เหตุได้รับสัมปทานรัฐ ชี้เป็นไป ตามข้อกฎหมายใหม่ มาตรา 184 (2) ด้าน "ภากร" แจงหวังใช้เป็นข้อมูลให้นักลงทุน ได้รับทราบ
  • "สมคิด" มอบนโยบาย "บีโอไอ" ขายภาพประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้า การลงทุนในภูมิภาค ย้ำหากนักลงทุนเข้าใจ การลงทุนมาแน่ และต้องเน้นการส่งเสริมการลงทุนที่ตอบโจทย์เพิ่มขีดแข่งขัน ลดเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมปรับกำลังคน นำระบบ AI มาใช้ เผยนักลงทุนจ่อมาดูงานอีอีซีเพียบ จีนมาส.ค.นี้ ตามด้วยญี่ปุ่น ต.ค. ฮ่องกง ก.พ.62 ด้านบีโอไอรับลูกเกลี่ยกำลังคนโฟกัสดึงลงทุน เล็งทบทวนมาตรการส่งเสริมธุรกิจบริการ มั่นใจปีนี้เป้า 7.2 แสนล้านมาแน่
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สรุปรายละเอียดของร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ. ... ซึ่งได้เปิดรับฟังความเห็นมาก่อนหน้านี้ หลังจากนี้จะเร่งเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพราะเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับผู้บริการเงินประเภทการให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่ง และแฟกตอริ่ง ที่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายและหน่วยงานกำกับที่ดูแลอย่างชัดเจน
  • สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ปรับขึ้น เชื่อว่ายังไม่กระทบทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคเพราะอัตราดอกเบี้ยยังต่ำ ขณะที่ปัจจุบันมีช่องทางการหาแหล่งเงินกู้ที่หลากหลาย รวมทั้งสถาบันการเงินเองยังมีการแข่งขันการปล่อยกู้ต่อเนื่อง
  • สภาธุรกิจตลาดทุนทุนไทย คาดหุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หลังเริ่มเห็น สัญญาณฟันด์โฟลว์ไหลเข้าต่อเนื่อง เหตุแวลูชั่น-ค่าพีอีหุ้นไทยต่ำกว่าพื้นฐาน ฟากปัจจัยภายในประเทศช่วยเสริมหลังการเลือกตั้งชัดเจน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MVP (บมจ.เอ็ม วิชั่น) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีราคาขาย IPO 1.90 บาท/หุ้น บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2561 โดยอิง PE Multiplier 15 เท่า ซึ่ง Implied จาก PEG 1 เท่า ได้เท่ากับ 2.50 บาท โดยคาดกำไรสุทธิปี 2561 โต 14% Y-Y อยู่ที่ 33 ล้นบาท ส่วนปี 2562-2563 คาดโตเฉลี่ย 16% ต่อปี จากการขยายพื้นที่จัดงาน TME, การจัดงานวิ่งเพิ่มขึ้น, และการเพิ่มรถคาราวาน

บริษัทฯเป็นที่รู้จักในนามผู้จัดงาน Thailand Mobile Expo ซึ่งจัดปีละ 3 ครั้ง แต่ด้วยประสบการณ์ในการจัดงานที่มีมากกว่า 11 ปี และมีการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้ดี ทั้งการจัดงานอีเว้นท์ การจัดงานวิ่ง และการให้บริการรถคาราวานที่ รวมถึงธุรกิจ e-Commerce ที่ขายสินค้าให้แบรนด์ Samsung ทำให้กำไรสุทธิปี 2558-2560 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 188% ต่อปี และผลจากการกระจายแหล่งที่มาของรายได้นี้เอง ทำให้ผลประกอบการรายไตรมาสผันผวนน้อยกว่าผู้ประกอบธุรกิจจัดงานอีเว้นท์อื่นในตลาด เช่น ARIP CMO GPI และ K

  • KKP (กรุงศรี) เป้า 85 บาท "ทยอยซื้อ" หรือเก็งกำไรก่อนประกาศจ่ายปันผลครึ่งปี เบื้องต้นคาด KKP จะจ่ายปันผลในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 2 บาท ให้ Dividend yield ประมาณ 2.6% คาดจะประกาศจ่ายปันผลในช่วงปลายปีนี้
  • ROBINS (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 70 บาท ยอดขายสาขาเดิมช่วงครึ่งหลังปี 2561 จะมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่งว่าช่วงครึ่งแรกปี 2561 ซึ่งคาดแรงหนุนจาก 1) การบริโภคที่ฟื้นตัวอย่างทั่วถึง, 2) การเพิ่มสินค้า private brand products เช่น Haven และ 3) แรงกดดันอัตรากำไรขั้นต้นลดลงน้อยลงจากการเร่งระบายสต็อก คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 2 เติบโต 7.3% YoY แต่ลดลง 7.1% QoQ มาที่ 629 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ