CRD ลุยประมูลงานต่อเนื่อง H2/61 หนุน Backlog จากที่มีราว 1 พันลบ.,เล็งเพิ่มสัดส่วนงานเอกชนเป็น 60%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 14, 2018 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เชียงใหม่ริมดอย (CRD) เปิดเผยว่า ครึ่งหลังของปีนี้บริษัทจะยังเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไป งานระบบสาธารณูปโภค งานระบบภายในอาคาร งานสถาปัตยกรรม และงานอื่น ๆ รวมถึงงานก่อสร้างด้านพลังงานทางเลือก โดยปัจจุบันมีงานในมือที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 จำนวน 907 ล้านบาท ซึ่งไม่นับรวมงานเซ็นสัญญาหลังจากนั้นอีก 1-2 โครงการที่จะสนับสนุนให้ Backlog ของบริษัทยังอยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้เอกชนให้ได้ 60% และงานราชการ 40% เช่นเดียวกับการแสวงหาโอกาสงานก่อสร้างในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต ทั้งนี้ จากการทุ่มเททำงานของบริษัทที่มีศักยภาพในการรับงานที่หลากหลายด้วยคุณภาพ ทำให้เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้การดำเนินงานในปีนี้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาตามเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนผลประกอบไตรมาส 2/61 บริษัทมีรายได้งานรับเหมาก่อสร้างที่ 333.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.8% และกำไร 7.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 259.2 ล้านบาท กำไร 6.5 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากโครงการต่อเนื่องเพิ่มขึ้น และสามารถบริหารจัดการและมีการควบคุมต้นทุนการก่อสร้างเป็นอย่างดี โดยรายได้ดังกล่าวแบ่งเป็นรายได้จากโครงการต่อเนื่อง 328.9 ล้านบาท และรายได้จากโครงการใหม่ 4.98 ล้านบาท

สำหรับงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้รวมอยู่ที่ 622.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% ส่วนกำไรอยู่ที่ 15.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 578.1 ล้านบาท กำไร 14.3 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทได้รับความไว้วางใจจากงานภาคเอกชนจำนวนมากเพื่อเข้าประมูลโครงการก่อสร้างทั้งอาคาร โรงแรม งานระบบในสถาบันการศึกษา รวมไปถึงงานด้านพลังงาน เช่น การก่อสร้างระบบผลิตก๊าซไบโอมีเทน เป็นต้น ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของความสามารถและศักยภาพที่บริษัทสามารถดำเนินการได้แบบครบวงจร จึงได้รับความไว้วางใจจากทุกภาคส่วน ทำให้ปัจจุบันมีสัดส่วนงานเอกชนอยู่ที่ 40% และงานราชการ 60% เพิ่มจากในไตรมาส 1 ที่มีสัดส่วนงานเอกชนประมาณ 33%

"การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี แม้ว่าจะเป็นช่วงของการประมูล ทำสัญญา และรับรู้งานก่อสร้างได้ตามระยะของงาน รวมถึงส่งมอบงานต่อเนื่องให้ลูกค้าเพื่อรับรู้รายได้ โดยตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้รับการติดต่องานเอกชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก เช่น ล่าสุดที่เราได้งาน ก่อสร้างโรงแรม HYATT REGENCY เกาะสมุย และงาน โครงการโรงเรียนนานาชาติเกรซ (วิทยาเขตใหม่) จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่ารวม 454.4 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากบริษัทเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น หลังจากเข้าเป็นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และเชื่อว่างานที่เข้ามาจะส่งผลให้สัดส่วนงานเอกชนของบริษัทเพิ่มขึ้นตามลำดับ"นายธีรพัฒน์ กล่าว

นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า ปัจจัยในการเติบโตของธุรกิจก่อสร้างนอกจากจะต้องพยายามหางานก่อสร้างให้มากขึ้นแล้ว การควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการที่ดีเป็นหลักสำคัญอย่างหนึ่งที่บริษัทดำเนินงานมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นงานเอกชนหรืองานราชการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ