TU รับรายได้ปีนี้พลาดเป้าโต 5% เหตุบาทแข็งแต่ยันทั้งปีไม่ต่ำกว่าปีก่อน,เจรจาปรับราคาขายสะท้อนต้นทุนหนุนกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 17, 2018 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัลลังก์ ไวยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) รับรายได้ปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโต 5% แต่ยังมั่นใจว่ารายได้จะไม่ต่ำกว่าปีก่อน แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัวราว 3% เป็นผลมาจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาราว 9% แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 3/61 เชื่อว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาท ประกอบกับ บริษัทเน้นการขายสินค้าในประเทศมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 90% และในประเทศ 10%

นอกจากนี้ บริษัทยังมั่นใจว่าจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 13.8% แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ 12.8% โดยบริษัทยังคงเน้นการเจรจากับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับราคาขายสินค้าให้สะท้อนกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลบวกในช่วงไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป รวมทั้งราคาวัตถุดิบทูน่าและกุ้งเข้าสู่ภาวะที่มีเสถียรภาพมากขึ้น

"ภาพรวมทุก ๆ อย่างเริ่มปรับตัวดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเจรจาด้านราคาวัตถุดิบ และการเจรจาเพิ่มราคาสินค้าให้สะท้อนกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ตลาดในประเทศไทย และประเทศเกิดใหม่ รวมไปถึงตลาดจีน คาดว่าจะเติบโตได้ค่อนข้างดี ซึ่งเราเชื่อว่าบริษัทฯจะสามารถมียอดขายที่เติบโตได้ แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกจะมีการหดตัวไปบ้างก็ตาม"นายบังลังก์ กล่าว

สำหรับงบลงทุนปกติปีนี้บริษัทยังคงไว้ที่ 4,800 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทใช้ไปแล้ว 2,500 ล้านบาท ซึ่งงบลงทุนดังกล่าวจะใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการซื้อเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม

นายบัลลังก์ กล่าวถึงแผนการเข้าซื้อกิจการใหม่ๆของบริษัทว่า ยังคงมองหาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและต่อยอดธุรกิจเดิม หลังจากล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อหุ้น 25.1% ในบริษัท ธรรมชาติ ซีฟู้ด รีเทล จำกัด (TSR) ในประเทศไทย และเข้าซื้อหุ้น 45% ในบริษัท ทียูเอ็มดี ลักเซมเบิร์ก เอสเออาร์แอล (TUMD) ในประเทศลักเซมเบิร์ก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ