นายตรงจิตร์ ฐานกุล รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ. เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT) กล่าวว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 5-10% จากเดิมที่คาดโต 5% หลังจากช่วงครึ่งปีแรกรายได้เติบโตแล้ว 5% ประกอบกับบริษัทมีสัญญาระยะสั้นที่จะหมดและเตรียมปรับค่าเช่าขึ้นจำนวนมาก ซึ่งการปรับค่าเช่าปีนี้จะอยู่ที่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2% โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่กว่า 90%
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมจะเปิดให้บริการศูนย์การค้าปลีกใจกลางราชประสงค์ คือ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ในเดือน ต.ค.-พ.ย. ซึ่งปัจจุบันมีการจองพื้นที่เช่าเซ็นสัญญาไปแล้วกว่า 65% พร้อมทยอยส่งมอบพื้นที่เพื่อตกแต่งร้านค้า และคาดว่าก่อนที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในช่วงไตรมาส 1/62 จะมียอดการเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 90% โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จาก เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ราว 80-100 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทคาดว่าจะรักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ระดับ 37.50% ด้วยการเปิดให้บริการพื้นที่เช่าแห่งใหม่ คือ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก บางส่วน แต่ยังไม่ต้องชำระค่าเช่าที่ดินจนถึงปี 62 โดยจะเริ่มชำระค่าเช่าที่ดินในปี 63 ขณะที่บริษัทยังมีการปรับค่าเช่าพื้นที่สำหรับผู้ที่ต่อสัญญาเชาพื้นที่ในโครงการของบริษัทอีกด้วย
นายตรงจิตร์ กล่าวต่อว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 64 จะทะลุ 5,000 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้ในโครงการ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ซึ่งประกอบไปด้วยเฟสที่ 1 คืออาคาร M1 และ M2 คือส่วนของ Shopping Center ที่เปิดในเดือน ต.ค.-พ.ย.61 นี้ และเฟสที่ 2 คือ อาคาร M3 คือส่วนของ Shopping Center เพิ่มเติมจะเปิดในปี 63 และในปี 64 จะเปิดให้บริการเฟสที่ 3 คือ โรงแรม 2 แห่ง และอาคารสำนักงานให้เช่า
ขณะเดียวกัน บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้ในปี 64 จะมาจากค่าเช่าพื้นที่ 60% รายได้จากโรงแรม 30% และอื่นๆ 10% เนื่องจากบริษัทเตรียมเปิดโรงแรมแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น โครงการโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท และโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ เอกซ์เพรส เปิดให้บริการประมาณไตรมาส 3/63 และโรงแรมใน เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก 2 แห่งในปี 64 โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ 61% โรงแรม 19% และอื่นๆ 20% โดยมีโรงแรมเปิดให้บริการเพียงโรงแรมโนโวเทลกรุงเทพ แพลทินัมเพียงแห่งเดียวเท่านั้น