โกลเบล็ก มอง SET ต้นสัปดาห์ฟื้นตามปัจจัยบวกในประเทศ แนะเก็งหุ้นผลงานโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 21, 2018 10:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ฟื้นตัวตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จากปัจจัยบวกสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษบกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ รายงานตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ในช่วงไตรมาส 2/61 เติบโต 4.6% ครึ่งแรกปี 61 เติบโต 4.8% ตามการบริโภคเอกชนที่ขยายตัวดีกว่าคาด และคงคาดการณ์ GDP ปี 61 เติบโตไว้ที่ระดับ 4.2-4.7%

รวมถึง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าเดือน ก.ค.มูลค่าการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าดีขึ้น โดยปรับเพิ่มเป้าการผลิตรถยนต์เป็น 2.08 ล้านคัน จากเดิม 2 ล้านคัน ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ เพิ่มขึ้น 25.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น และดัชนีความเชื่อมั่นฯ เดือน ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 62 เดือน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยกดดันจากปัญหาตุรกีแม้ส่งผลกระทบทางอ้อมกับเศรษฐกิจไทยแต่ส่งผลกระทบต่อ fund flow ของตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย และความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่อาจชะลอตัวลงจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 23 ส.ค.61

นอกจากนี้ ยังคงมีปัจจัยที่น่าจับตา ได้แก่ การเจรจาการค้าผู้แทนสหรัฐฯ-จีนสัปดาห์นี้ คาดจะพุ่งเป้าไปที่เรื่องเงินหยวนอ่อนค่า วันที่ 22 ส.ค. สหรัฐ เปิดเผย ยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.ค.และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ส่วนคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. วันที่ 23 ส.ค.สหภาพยุโรป (อียู) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ(PMI) ภาคการผลิตและภาคการบริการเบื้องต้นเดือน ส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือน ส.ค.

ประกอบกับ สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาบ้านเดือน มิ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการบริการเบื้องต้นเดือน ส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ค.และในวันที่ 23-25 ส.ค. มีการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หัวข้อ "การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด และสิ่งบ่งชี้สำหรับทิศทางนโยบายการเงิน"

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในขาขึ้น คาดดัชนีผันผวนในกรอบ 1,665-1,720 จุด แนะเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าครึ่งปีหลังปี 61 เติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ ANAN, ORI, SC, KCE, XO, CPF, SSP หุ้นที่ได้อานิสงส์จากค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น ได้แก่ SPRC, IRPC, TOP, BCP หุ้น Domestic Play ได้แก่ ROBINS, HMPRO, BEM และหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ได้แก่ KCE, SVI, CPF, GFPT

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติค่าเงินตุรกีหลังมีความช่วยเหลือทางการเงินจากหลายประเทศ และสัปดาห์นี้จะมีการประชุมหารือกันในเบื้องต้นถึงโอกาสลดสงครามการค้ากันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทำให้เกิดการขายทำกำไรในเงินสกุลดอลลาร์ ค่าเงินสกุลหลักจึงกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงและโภคภัณฑ์ที่ถูกขายลงมาในช่วงก่อนหน้า

ขณะที่ในช่วงปลายสัปดาห์จะมีการประชุมการเงินระดับโลกที่ Jackson Hole ซึ่งคาดว่าจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับมาตรการกีดกันทางการค้าเป็นประเด็นสำคัญ จึงมีโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะแกว่งอ่อนลง ส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นไปทดสอบระดับ 1,200 ดอลลาร์ซึ่งถ้าสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ จะเป็นสัญญาณยืนยันการกลับทิศทางเป็นขาขึ้นหลังจากที่ร่วงลงมาจากจุดสูงสุดที่ 1,365 ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินบาทมีแนวโน้มจะสวิงในกรอบเดิมระหว่าง 33.10–33.50 บาท/ดอลลาร์ โดยรับความผันผวนจากการดึงเงินกลับของเฟดกับการไหลเข้าพักของเงินทุนที่เชื่อมั่นว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการเงินของไทยมีความแข็งแกร่งกว่าประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำในประเทศรีบาวด์ขึ้นได้ไม่เต็มที่ ทั้งนี้แนะนำซื้อเพื่อเล่นรอบ ส่วนผู้มีสถานะ short ควรปิดทำกำไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ