APEX เล็งตัดขายที่ดินบางส่วนหรือหาผู้ร่วมทุนพัฒนาโครงการ หวังผลงานปีนี้พลิกกำไร-ปลด"C"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 31, 2018 15:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานกรรมการ บมจ.เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ (APEX) เปิดเผยว่า การที่หุ้นของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย C เป็นเพราะมีฐานะการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้วหลังหักส่วนต่ำมูลค่าหุ้น โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/61 อยู่ที่ระดับ 46.43%

โดยบริษัทคาดว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าวได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยเตรียมตัดขายที่ดินบางส่วนหรือหาผู้ร่วมทุนพัฒนาโครงการ ซึ่งจะช่วยผลักดันผลประกอบการพลิกมีกำไรในปีนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานหลักคาดว่าจะฟื้นตัวชัดเจนในปี 62 หลังจากเริ่มทยอยโอนโครงการในจ.ภูเก็ต พร้อมเร่งล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด 909 ล้านบาทในช่วงปี 62-63

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ทั้งหมด 3 แนวทางคือ 1.เตรียมรับรู้รายได้จากโครงการ Movenpick ซึ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมขายโอนกรรมสิทธิ์ทันที โดยมีสต็อกเหลืออยู่ทั้งหมด 500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 250 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะรับรู้ทั้งหมดในปี 62

2.โครงการเรสซิเดนซ์และโรงแรมบนชายหาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 14 ไร่ มูลค่า 3.2 พันล้านบาท โดยบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาขายที่ดินในส่วนของโรงแรมขนาด 9 ไร่ มูลค่าราว 45 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนในเดือน ก.ย.นี้ ในส่วนของพื้นที่ที่เหลือบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการเรสซิเดนซ์ ต่อไป

3.โรงแรมซิกม่า พัทยา บนพื้นที่หาดจอมเทียน ขนาด 10.5 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาและเจรจากับพันธมิตร โดยมองเป็น 2 แนวทางคือขายทั้งหมดมูลค่าราว 1,000 ล้านบาท หรืออาจจะเป็นการเจรจาเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนในโรงแรมดังกล่าว แล้วนำโครงการขายเข้าบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายราว 50% ของมูลค่าทั้งหมด

"สำหรับการแก้ไขปัญหาเครื่องหมาย C ที่เกิดขึ้นนั้นเราไม่ได้หนักใจเลย เพราะแผนการดำเนินงานใน 4 ปีของเราค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราก็ได้เปิดเผยให้กับนักลงทุนได้ทราบมาโดยตลอด ซึ่งโครงการต่าง ๆ ของบริษัทถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี แต่แค่ยังไม่ได้รับรู้รายได้แค่นั้นเอง โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะสั้นคือในช่วงไตรมาส 3/61 หรืออย่างช้าไตรมาส 4/61 การสร้างรายได้และกำไรเราก็ดำเนินการอยู่ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนส่วนของผู้ถือหุ้นก็จะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือราว 61% ได้"นายพงษ์พันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานหลักจะเริ่มกลับเข้าสู่การฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปี 62 โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการหารายได้เข้ามาเพิ่มเติมในช่วงกลางปี ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การหาที่ดินเข้ามาแล้วขายออกไป เพื่อที่จะได้ส่วนต่างจากราคาขาย ขณะที่ในข่วงไตรมาส 4/62 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ The Residence at Sheraton Phuket Grand Bay Resort ที่อ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันมียอดขาย Residence แล้วจำนวนมาก

นอกจากนี้บริษัทเตรียมล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด 909 ล้านบาท ในปี 62-63 นี้ โดยจะใช้กำไรจากผลการดำเนินงานทยอยล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด

"ที่ผ่านมาเราก็มีแผนการดำเนินงานอย่างชัดเจน แต่หลาย ๆ อย่างคงไม่ได้กลับมาเร็วนัก ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเรามีผลขาดทุนจากค่าใช้จ่ายในการบริหาร และการขาย แต่ยังไม่สามารถรับรู้รายได้จากโครงการต่าง ๆ ได้ โดยในช่วงปลายปี 62 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของบริษัทได้อย่างชัดเจน และเราจะเร่งการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมดด้วย"นายพงษ์พันธ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ