(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานตามตลาดภูมิภาค เผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้า-วิตกเงินอ่อนค่าใน Emerging Market

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 5, 2018 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวลงกันเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดหุ้นไต้หวัน แต่ก็มีตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับตัวลงมาก เนื่องจากมีความกังวลในเรื่องเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา ที่จะมีการเจรจากันในวันนี้ และประเด็นการค้าสหรัฐฯ กับจีน ที่ทางสหรัฐฯใกล้เวลาจะจบการทำประชาพิจารณ์แล้ว ซึ่งหลังจากจบการทำประชาพิจารณ์ทางสหรัฐฯก็พร้อมที่จะตั้งกำแพงภาษีขึ้น มองว่าถ้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% ก็คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวลงกัน แต่ถ้ายังไม่มีความชัดเจนหรือคิดภาษีน้อยกว่านี้ ก็อาจจะทำให้ตลาดฯแกว่งไซด์เวย์

นอกจากนี้ ในเรื่องของค่าเงินอ่อนค่าในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องค่าเงินของตุรกี และอาร์เจนตินา อ่อนค่ามาก แต่ตอนนี้เริ่มมีอีกหลายประเทศที่ค่าเงินอ่อนค่าเช่นเดียวกัน อย่างอินโดนีเซีย ค่าเงินอ่อนค่าในรอบ 20 ปี, อินเดียค่าเงินอ่อนค่ามากสุด และอิหร่านก็ค่าเงินอ่อนค่ามากเช่นกัน ซึ่งสร้างความกังวลว่าเศรษฐกิจจะมีปัญหาไปด้วย และเม็ดเงินก็จะไหลออกจาก Emerging Market ซึ่งกดดันให้เกิดแรงขาย และรวมไปถึงหุ้นไทยที่อาจได้รับผลกระทบด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,700 จุด ส่วนแนวต้าน 1,720 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ก.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,952.48 จุด ลดลง 12.34 จุด (-0.05%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,091.25 จุด ลดลง 18.29 จุด (-0.23%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,896.72 จุด ลดลง 4.80 จุด (-0.17%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 33.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 9.20 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 184.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 21.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.88 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 7.42 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 22.06 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.ย.61) 1,714.41 จุด ลดลง 6.80 จุด (-0.40%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 169.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ก.ย.61) ปิดที่ 69.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.ย.61) ที่ 6.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.76 แนวโน้มอ่อนค่า หลังดอลล์แข็ง มองกรอบวันนี้ 32.70-32.85
  • ค่าเงินตลาดเกิดใหม่ ส่อผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ หลัง "ตุรกี" ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ ด้าน "อาร์เจนฯ" ออกมาตรการหวังพยุงเศรษฐกิจ ขณะค่าเงิน "อินโดฯ-อินเดีย" ทำสถิติอ่อนค่าครั้งใหม่ ต่อเนื่อง กกร. สั่งจับตาตลาดเงินใกล้ชิด หวั่นกระทบบาทผันผวน ด้านนักวิเคราะห์ฟันธงไทยไร้ผลกระทบ เหตุฐานะแกร่ง
  • "ชาญศิลป์"เตรียมชงบอร์ดปตท.เคาะพันธมิตรร่วมประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2.24 แสนล้านบาท คาด"บีทีเอส"ตัวเต็งร่วมชิงดำ ด้าน"ซีพี"รุกต่อเนื่อง รุดหารือ"ซีอาร์อาร์ซี" จากจีน หลังเดินสายพบ"อิตาลี-ฝรั่งเศส" ยันยังไม่ตัดสินใจดึงใครร่วมเป็นพันธมิตร
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.สูงสุด 64 เดือน ผลจากเศรษฐกิจ ส่งออก ท่องเที่ยว ขยายตัวดีต่อเนื่อง พร้อมกับกระแสจัดเลือกตั้งปีหน้า ช่วยดันดัชนี เชื่อมั่นทุกรายการกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และเข้าสู่ภาวะขาขึ้น ม.หอค้าฯเตรียมขยับคาดการณ์จีดีพีเกิน 4.6-5%
  • การประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ (คณะอนุฯ คนร.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเห็นชอบแผนการควบรวมกิจการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังถือหุ้น 100% และประกอบธุรกิจโทรคมนาคมเหมือนกัน จึงกำหนดเป้าหมายให้ควบรวมกันให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.62 โดยดำเนินการควบรวมภายใต้ พ.ร.บ.บริษัท มหาชน พ.ศ.2535 เนื่องจากทีโอทีและแคทเป็นบริษัทมหาชนแล้ว

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TPLAS (บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994)) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยเสนอขาย IPO ที่ 1.48 บาท/หุ้น โดยบริษัทฯดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารประเภท ถุงร้อน ผลิตจากพลาสติกชนิด Polypropylene (PP) ถุงขุ่น และ ถุงหูหิ้ว ผลิตจากพลาสติกชนิด High Density Polyethylene (HDPE) ภายใต้ตราสินค้า "หมากรุก" และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ผลิตจากพลาสติกชนิด Polyvinyl Chloride (PVC) ภายใต้ตราสินค้า "Vow Wrap" โดยดำเนินงานภายใต้สโลแกนคือ "มาตรฐาน ทนทาน เหนียวแน่น" บริษัทเน้นการขายในตลาดท้องถิ่น มีทีมขายที่เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายซึ่งอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศ
  • CKP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 4.8 บาท เก็งกำไรงบ Q3/61 โตก้าวกระโดดจากโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ในลาวเดินเครื่องเต็มกำลังผลิต ตามน้ำในเขื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหน้าฝน
  • ASAP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7.50 บาท กำไร H2/61 มีแนวโน้มสดใสกว่า H1/61 จากการเปิด ASAP Auto Park phase 1 ซึ่งจะทำให้มีรายได้ค่าเช่าและรายได้จากการขายรถมือสองเพิ่มขึ้น จึงคาดกำไรสุทธิปีนี้ 158 ลบ. +4.8%Y-Y ก่อนจะโตแรง +37%Y-Y เป็น 217 ล้านบาทในปีหน้า จากการรับรู้รายได้ AutoPark เต็มปี และอัตรากำไรของธุรกิจขายรถหมดอายุสัญญาที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ชอบ ASAP ในฐานะผู้นำธุรกิจ Car Sharing และคาด ROE จะพุ่งแตะ 17% ในปี 2563 จากเพียง 11% ในปัจจุบัน ขณะที่ NVDR ซื้อเพิ่มต่อเนื่อง โดยปีนี้ซื้อไปแล้ว 267 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ซื้อเพียง 110 ล้านบาท
  • PTTGC (กสิกรไทย) "ซื้อ" แม้ความน่าสนใจของกลุ่มโรงกลั่นจะลดน้อยลงจากแรงกดดันของค่าการกลั่น (GRM) แต่ในบรรดาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นทั้งหมด ชอบ PTTGC มากที่สุดเนื่องจากเป็นบริษัทตัวแทนกลุ่มต้นน้ำ กอปรกับมีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นที่น้อย และไม่มีการผลิตน้ำมันเบนซิน ขณะที่ประเด็นความเสียหายจากวัตถุดิบคงคลังในระบบของ GGC หายไปมูลค่ารวม 2.1 พันลบ. จะกระทบต่อ PTTGC เพียงเล็กน้อย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ