SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,621.64 จุด ลดลง 14.84 จุด (-0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 16,719.76 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวตามตลาดต่างประเทศรับ Sentiment ลบชัดเจนจากความไม่แน่นอนหลายประเด็น ทั้ง Brexit ปัญหางบประมาณของอิตาลี และสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ อีกทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงแรงเพิ่มแรงกดดัน รวมทั้งปัจจัยภายในประเทศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3/61 โตต่ำกว่าคาด แม้จะมียอดซื้อสุทธิจากต่างชาติแต่ก็ยังไม่มาก
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวปรับตัวลงและเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,632.23 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,619.82 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดเช้านี้อ่อนตัวลงรับแรงกดันจากปัจจัยภายนอกที่ Sentiment ตลาดต่างประเทศเป็นลบชัดเจนจากความไม่แน่นอนทั้งเรื่องอังกฤษจะออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ปัญหางบประมาณอิตาลี และ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลงมามาก โดยกลุ่มเทคโนโลยีกดดันตลาด และตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในไตรมาส 3/61 ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามา
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการกลับเข้ามาซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ โดย 2-3 วันที่ผ่านมาเข้าซื้อบ้างแล้วแต่ยังไม่มาก และภาพการเมืองยังไม่ชัดเจน ฉะนั้น ในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยจึงผันผวนไปตามปัจจัยภายนอก
ทั้งนี้ คาดตลาดหุ้นในช่วงบ่ายยังซึมตัวต่อ ให้แนวรับไว้ที่ 1,620 จุด แนวต้านให้ไว้ที่ 1,635-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,046.39 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 750.22 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 648.54 ล้านบาท ปิดที่ 203.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 647.75 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 611.18 ล้านบาท ปิดที่ 177.50 บาท ลดลง 3.00 บาท