(เพิ่มเติม) "เอสไอเอสบี"เคาะราคาขาย IPO ที่ 5.20 บาท เปิดจอง 22-23 และ 26 พ.ย.เข้าเทรด 29 พ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 20, 2018 13:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) เปิดเผยว่าได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ที่ระดับราคา 5.20 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 22-23 และ 26 พ.ย.61 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "SISB"

"การกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 5.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ที่ 59.59 เท่า ต่ำกว่าตลาด mai ที่มี P/E มากกว่า 70 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพในการเติบโต โดยราคา IPO นี้มียอดนักลงทุนสถาบันแสดงความประสงค์จะจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่จัดสรรถึงกว่า 13 เท่า เพราะบริษัทมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ และมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ทำให้มีผลการดำเนินงานที่มั่นคง และมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติในไทยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ปกครอง"

การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 7 แห่ง ประกอบด้วย บล.โกลเบล็ก บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.โนมูระ พัฒนสิน บล.ทรีนีตี้ บล.เคที ซีมิโก้ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) และ บล.เอเซีย พลัส

ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรหุ้น IPO ให้กับนักลงทุนสถาบัน 110 ล้านหุ้น, กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 26 ล้านหุ้น และที่เหลือจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไป

นายสมภพ กล่าวว่า SISB ปรับแผนจากตอนแรกที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ (SET) มาเป็นตลาด mai เนื่องจากได้ปรับเปลี่ยนมาตรฐานการบันทึกบัญชีใหม่เป็น TFRS15 ซึ่งเหมาะสมกับธุรกิจมากกว่า ส่งผลย้อนหลังทำให้กำไรลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ของ SET โดยกำไรย้อนหลัง 3 ปี (58-60) ของบริษัทลดลงเหลือ 50.43 ล้านบาท, 69.83 ล้านบาท และ 17.92 ล้านบาท ตามลำดับ จากมาตรฐานบัญชีเดิมมีกำไรอยู่ที่ 76.51 ล้านบาท, 84.73 ล้านบาท และ 59.60 ล้านบาท ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ตามมาตรฐานบัญชี TFRS15 บริษัทมีกำไรสุทธิ 71.54 ล้านบาทเติบโตกว่า 860% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 7.44 ล้านบาท

นายสมภพ กล่าวอีกว่า จากการเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุน(โรดโชว์) 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, สงขลา, ชลบุรี และ ขอนแก่น ปรากฏว่าได้รับความสนใจจำนวนมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ของตลาดหุ้นไทย ที่สำคัญนักลงทุนสถาบันมีความต้องการเกินกว่าหุ้นที่เสนอขายถึง 13.5 เท่า

ส่วนภาวะหุ้น IPO ที่เข้าซื้อขายแล้วราคาต่ำกว่าราคา IPO ในช่วงนี้เกิดจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง ทำให้มีแรงเทขายตั้งแต่ตอนเข้าซื้อขายวันแรก แต่ไม่กังวลกับภาวะดังกล่าว เนื่องจาก SISB เป็นธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว

"ภาวะ IPO ตอนนี้เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับการตั้งราคาถูกหรือแพง IPO ก่อนหน้านี้ พี/อีไม่ถึง 10 เท่ายังต่ำจองเลย นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นสุด ๆ ซื้อ IPO เพื่อมารอตรวจผลการเข้าเทรดวันแรกเหมือนซื้อล็อตเตอร์รี่ พอไม่ดีก็ทิ้ง โดยไม่สนใจพื้นฐานและการเติบโตในอนาคต ที่จริงนักลงทุนมีสิทธิเลือก ไม่จำเป็นต้องซื้อ IPO ทุกตัว ควรเลือกแต่บริษัทที่มีศักยภาพและลงทุนระยะยาว" นาย สมภพ กล่าว

SISB เปิดดำเนินธุรกิจด้านการศึกษานานกว่า 17 ปี มีการเรียนการสอนที่มีคุณภาพพร้อมสถานศึกษาที่เป็นมาตรฐานสากล ใช้หลักสูตรการศึกษาจากสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบการศึกษาชั้นนำของโลก และที่ผ่านมาโรงเรียนในกลุ่ม SISB ได้ดำเนินการลงทุนด้านต่างๆ อย่างครบถ้วน ทั้งด้านการศึกษา สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แบบเวิลด์คลาส ไม่ว่าจะเป็น Sport Complex , Auditorium, หอพักนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้บริการได้อย่างเต็มที่

ปัจจุบัน SISB มีโรงเรียนนานาชาติที่บริษัทเป็นผู้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งโรงเรียนโดยตรงถึง 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สุวรรณภูมิ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เอกมัย และอีก 1 โรงเรียน คือ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เชียงใหม่ที่บริษัทร่วมค้าเป็นผู้รับใบอนุญาต รวมมีโรงเรียนนานาชาติภายในกลุ่มบริษัททั้งหมด 5 โรงเรียน จำนวนนักเรียน 2,334 คน จากที่เริ่มต้นมีเพียง 35 คน และมีศักยภาพที่จะรับนักเรียนเพิ่มได้มากถึง 4,175 คน

ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 61 บริษัทมีรายได้รวม 690.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 25.92% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 71.54 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 38.79% ขณะที่มี EBITDA เติบโตสม่ำเสมอ โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 187.69 ล้านบาท

นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SISB กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการระดมทุน 1,299.06 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ในกลุ่มให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 600 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายให้ลดลงจากปัจจุบันที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการเติบโตได้ต่อเนื่อง และภายหลังจากการระดมทุนครั้งนี้สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนจะลดลง ต่ำกว่า 0.5 เท่า จาก 2.97 เท่า

"การระดมทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯเพิ่มศักยภาพในการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการพัฒนาเพื่อยกระดับการเป็นผู้ให้บริการการศึกษาที่มีมาตรฐานระดับสากล เพิ่มศักยภาพของนักเรียนให้ทัดเทียมระดับอินเตอร์ สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ SISB เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทย และในภูมิภาค โดยมีแผนเพิ่มจำนวนนักเรียนทั้งหมดภายในกลุ่มให้มากกว่า 4,000 คน ภายใน 3-5 ปี"

ส่วนราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ P/E 59.59 เท่า เป็นระดับที่นักลงทุนสถาบันให้การยอมรับ เพราะราคาไอพีโอมาจากการ Book building ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันแจ้งราคาและจำนวนหุ้นเพื่อเสนอซื้อ สะท้อนความสนใจในธุรกิจใหม่และเล็งเห็นศักยภาพการเติบโต ที่สำคัญตลาดหุ้นไทยยังไม่มีธุรกิจเปรียบเทียบกับ SISB จึงไม่สามารถตอบได้ว่าแพงไปหรือไม่ ขณะที่ธุรกิจการศึกษาในต่างประเทศก็มีระดับ P/E ต่างกัน เช่น สิงคโปร์เฉลี่ย 30-40 เท่า ฮ่องกง-จีนมากกว่า 100 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ