BAY ตั้งเป้าปี 62 งานวาณิชธนกิจโต 25-30% ใช้จุดแข็งศักยภาพกรุงศรี-MUFG ให้บริการครบวงจร

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 21, 2018 16:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิไชย มหาคุณ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า BAY เสริมศักยภาพด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ด้วยกลยุทธ์บริการลูกค้าแบบครบวงจร (Total Investment Banking Solutions) โดยเสริมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการระดมทุนในรูปแบบต่างๆ และเป็นที่ปรึกษาการเงินให้กับลูกค้าธุรกิจ ตลอดจนบริการจัดโครงสร้างทางการเงินและสินเชื่อโครงการ พร้อมทั้งผสานความแข็งแกร่งในประเทศของกรุงศรี กรุ๊ป และเครือข่ายระดับโลกของ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ รองรับการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย โดยตั้งเป้ากลุ่มงานวาณิชธนกิจเติบโต ประมาณ 25-30% ในปี 62

"การระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มว่ายังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 61 คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ของภาคเอกชนไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้านบาท และคาดว่าภาคเอกชนส่วนใหญ่ยังคงระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง"นายสิทธิไชย กล่าว

ทั้งนี้ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) จัดอันดับให้ BAY เป็นอันดับ 2 ในฐานะผู้รับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวในช่วง 9 เดือนแรกของปี 61 และคาดว่าจะติดอันดับ 1 ใน 5 ในปี 61/62 ขณะที่สินเชื่อโครงการ (Project Finance) คาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และกลุ่มลูกค้าของ BAY และ MUFG ที่สนใจลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน กรุงศรีจึงได้ขยายงานด้านวาณิชธนกิจด้วยการเพิ่มบุคลากรและเสริมความแข็งแกร่งให้ครอบคลุมทุกด้าน

นายสิทธิไชย กล่าวเพิ่มเติมว่า BAY มีความพร้อมในการให้บริการ ทั้งในด้านสินเชื่อโครงการ (Project Finance) การจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ (Debt Capital Market หรือ DCM) การให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินและการรับประกันการจัดจำหน่ายในการระดมทุนจากการเสนอขายตราสารทุน (Equity Capital Market หรือ ECM) และการควบรวมและการซื้อกิจการ (Merger and Acquisition หรือ M&A) โดย BAY สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วยเครือข่ายของธนาคาร ผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือ คือ บล.กรุงศรี (KSS) บลจ.กรุงศรี (KSAM) รวมทั้งเครือข่ายของ MUFG ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นผู้จัดสรรเงินกู้ (Mandated Lead Arranger) รายใหญ่อันดับ 1 ของโลก

"ในช่วงปีที่ผ่านมา กรุงศรี กรุ๊ป และ MUFG ประสบความสำเร็จในการจัดหาวงเงินสินเชื่อโครงการให้กับลูกค้าในธุรกิจพลังงาน และอากาศยาน ได้รับความไว้วางใจในการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัทในหลากหลายกลุ่มธุรกิจที่สำคัญในประเทศไทย อันได้แก่ บริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจพลังงาน และสาธารณูปโภค ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการควบรวมกิจการและเป็นที่ปรึกษาในการเสนอขายทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ให้กับประชาชนทั่วไป

ในด้านสินเชื่อ Project Finance กรุงศรีได้รับความร่วมมือจาก MUFG ในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงธุรกิจการบิน และคาดว่าความต้องการด้านบริการจัดโครงสร้างทางการเงินและสินเชื่อโครงการ (Project Finance and Structured Finance) มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยขับเคลื่อนจากความคืบหน้าของโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โดยจะเน้นขนาดของดีลมูลค่าอย่างน้อย 5,000 ล้านบาท

ในด้านการออกจำหน่ายตราสารหนี้ กรุงศรีมุ่งเน้นบริการแบบครบวงจรที่มีมูลค่าดีลอย่างน้อย 2,000 ล้านบาท รวมทั้งมุ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในเรื่องการควบรวมกิจการซึ่งครอบคลุมทั้งดีลภายในประเทศและระหว่างประเทศ (Cross-border M&A) ผ่านการเชื่อมโยงของเครือข่าย MUFG ขณะที่ในด้านบริการการระดมทุนจากตราสารทุน กรุงศรีมุ่งเน้นการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) และการเป็นที่ปรึกษาการเสนอขายกอง REIT โดยผ่านเครือข่ายกรุงศรีผสานความร่วมมือกับ KSS และแพลตฟอร์มระดับโลกของ MUFG เพื่อส่งมอบบริการที่สร้างความแตกต่าง ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับลูกค้า เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจไทย" นายสิทธิไชย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ