ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,604.40 จุด ลดลง 12.93 จุด (-0.80%) มูลค่าการซื้อขาย 35,246.39 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,622.01 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,603.00 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 372 หลักทรัพย์ ลดลง 956 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 455 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Equity Derivative บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง มองว่านักลงทุนยังมีความไม่มั่นใจในทิศทางของตลาดฯ ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ได้เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์แล้วไม่ผ่าน 1,620 จุด และนักลงทุนต่างชาติก็ยังคงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมไม่มาก และนักลงทุนระยะยาวก็ไม่ได้กลับเข้ามาซื้อมาก ดังนั้นการเทรดหุ้นช่วงนี้เป็นลักษณะของการเทรดดิ้งช่วงสั้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้ติดตามการประชุม G20 ซึ่งนอกรอบให้จับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในช่วงปลายเดือนนี้ นอกจากนี้ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงาน และตัวเลขเงินเฟ้อ ของสหรัฐฯ เนื่องจากจะมีผลต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งซึมลง ซึ่งถ้าไม่หลุดแนว 1,600 จุด ก็จะซึม แต่ถ้าหลุดก็จะเกิดแรงขายตามมา พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 2,838.15 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 1.40 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,740.03 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,548.68 ล้านบาท ปิดที่ 190.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,276.22 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,227.59 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท ลดลง 2.50 บาท