(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งซึมลงขาดปัจจัยชี้นำ-นลท.ยังไม่มั่นใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 23, 2018 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะแกว่งซึมลง ในบรรยากาศที่เงียบเหงา เนื่องจากตลาดฯขาดปัจจัยชี้นำ โดยตลาดสหรัฐฯเมื่อคีนที่ผ่านมาปิดทำการ และวันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดหุ้นอินเดียก็ปิดทำการ ส่วนตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย

สำหรับปัจจัยในประเทศในเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจไทยก็ออกมาคละเคล้ากัน ทำให้นักลงทุนยังไม่มั่นใจ โดยตัวเลขส่งออกได้ออกมาดี แต่ตัวเลขท่องเที่ยวออกมาแย่ลง ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาเท่าไร

อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของยุโรป และสหรัฐอเมริกา และติดตามฟุตซี่จะทบทวนดัชนีฯ ส่วนในวันที่ 25 พ.ย.นี้ก็ให้ติดตามการประชุมสหภาพยุโรป (EU) โดยให้จับตาประเด็นอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)

พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,622 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดทำการเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.61) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 69.34 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.93 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.31 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.85 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณผู้ใช้แรงงาน

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 พ.ย.61) 1,604.40 จุด ลดลง 12.93 จุด (-0.80%)
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 1,277.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พ.ย.61
  • ตลาดไนเม็กซ์ ปิดทำการเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.61) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 พ.ย.61) ที่ 4.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.97/99 คาดแกว่งแคบ ตลาดยังไร้ปัจจัยสำคัญ มองกรอบวันนี้ 32.90-33.05
  • จับตา กนง.ประชุม 19 ธ.ค. ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกรอบ 7 ปี, แบงก์ชาติส่งสัญญาณชัด"ขึ้นดอกเบี้ย"มั่นใจไม่เป็นอุปสรรคการเติบโตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภายใต้"จีดีพี"โตเกิน 4% ย้ำขยับขึ้นค่อยเป็นค่อยไป ระบุประเทศอื่นขึ้นหมดแล้ว ด้าน"อภิศักดิ์"ค้านปรับขึ้นห่วงกระทบความมั่นคงการเงินทำต้นทุนประเทศเพิ่มหมื่นล้าน ขณะ"กอบศักดิ์"แนะรอดูความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างๆ ก่อน
  • ร.ฟ.ท.เร่งสายสีแดงต่อ ขยาย 3 เส้นทาง "บางซื่อ-ตลิ่งชัน-ศาลายา" 2.4 หมื่นล้านบาทคาดประมูล 62 เปิดใช้ปี 65 ช่วยเพิ่มผู้โดยสารสีแดงทั้งระบบ ส่วน "บางซื่อรังสิต, บางซื่อ-ตลิ่งชัน" เปิด ม.ค.64 คาดผู้โดยสาร 5 หมื่นคน/วัน ส่วน บ.ลูกสีแดงตั้งใน ก.พ. 62 ทำคู่มือแผนเดินรถเข้าสถานีกลางบางซื่อเตรียมปิดฉากหัวลำโพง
  • กนอ.ปิดขายซองทีโออาร์ชิงพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 (ช่วงที่ 1) พบเอกชนไทย-เทศ 18 บริษัทพร้อมเข้า ชิง กลุ่มธุรกิจพลังงาน พาเหรดมากันเต็มพิกัด ทั้ง กลุ่มปตท. กัลฟ์ฯ ราชบุรี เอ็กโก้ ฯลฯ กนอ.เตรียมเปิดชี้แจงทำความเข้าใจก่อนพาคณะเอกชนทัวร์ดูพื้นที่ก่อสร้างจริงวันที่ 27 พ.ย. นี้
  • "พาณิชย์" เผยบริษัทตั้งใหม่ในพื้นที่อีอีซี 10 เดือนพุ่ง 6,095 ราย เพิ่ม 8.22% ทุนจดทะเบียนรวม 1.64 หมื่นล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาแรงยอดสูงสุด ตามด้วยก่อสร้าง ภัตตาคารและร้านอาหาร ส่วนบริษัทที่จัดตั้งและมีต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 49.99% พบเป็นชาวญี่ปุ่นมากสุด รองลงมา เป็นสิงคโปร์ และจีน
  • บอร์ด กสทช.ไฟเขียวเกณฑ์เรียกคืนคลื่น อนุญาตสาธิต 5จี รวม 23 วัน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 30 บาท กำไร Q3/61 ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด 9% อยู่ที่ 2,879 ลบ. +41% Q-Q, 19% Y-Y จากทั้งรายได้ที่โตแข็งแกร่งและควบคุมต้นทุนได้ดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โมเมนตัมกำไร Q4/61 ต่อเนื่องปี 2562 ยังคงดีหนุนโดยแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่ยังแข็งแรง พร้อมคาดกำไรปกติปี 2561 ที่ 9,744 ลบ. +21.5% Y-Y และโตต่ออีก 11.9% Y-Y เป็น 10,902 ลบ.ในปี 2019 ทำ New High ต่อเนื่อง โดย BDMS เป็นหุ้น Domestic และ Defensive ซึ่งมีความแข็งแกร่งและเหมาะกับสภาวะตลาดที่ผันผวนในปัจจุบัน
  • TISCO (กสิกรไทย) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 100 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 3/61 ที่ 1.8 พันลบ.โตขึ้น 15% YoY และ 6% QoQ ปัจจัยสำคัญหนุนมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) และกำไรจากการลงทุนที่สูงขึ้น รวมถึงกำไรจากการขายธุรกิจบัตรเครดิต ส่วนกำไรที่เติบโตขึ้น QoQ มีแรงหนุนมาจากกำไรจากการลงทุนที่สูงขึ้น และกำไรจากการขายกิจการบัตรเครดิต รวมถึงค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่ลดลง
  • KTB (กรุงศรี) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 23 บาท เป็นหนึ่งใน top pick กลุ่มธนาคาร เนื่องจากคาดว่าจะมีผลกำไรเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้และปีหน้าประมาณ 30%yoy และ 11%yoy ตามลำดับ เป็นผลจากสินเชื่อภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นและได้ผลบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ